ตร.ภูเก็ต ผนึกกำลัง ตม.-ตร.ท่องเที่ยว กวาดล้างคนต่างชาติทำผิดกฎหมาย-แย่งงานคนไทย เดินหน้าตรวจสอบนอมินีต่างชาติ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ต ผนึกกำลัง ตม.และตำรวจท่องเที่ยว ระดมกำลังกวาดล้างชาวต่างชาติทำผิดกฎหมายและแย่งงานคนไทย พร้อมเดินหน้าตรวจสอบคนไทยเป็นนอมินีให้ต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในภูเก็ตครั้งใหญ่เร็วๆ นี้

วันนี้ (18 ก.พ.) พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.ทท.2 บก.ทท.3 ร่วมแถลงข่าว “ผลการปฏิบัติในการการบูรณาการกำลังการระดมกวาดล้าง และดำเนินการในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ” ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต


พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ และได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายดำเนินการให้ลุล่วง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต บูรณาการร่วมกับ ตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยว ระดมกวาดล้างและแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 10-16 ก.พ.68 รวม 7 วัน

สามารถจับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 30 ราย จับกุมชาวต่างชาติที่ลักลอบประกอบกิจการนำเที่ยว ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 9 ราย จับกุมชาวต่างชาติที่ลักลอบประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 8 ราย จับกุมชาวต่างชาติที่ลักลอบครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด จำนวน 8 รายจับกุมชาวต่างชาติ เมาสุราขณะขับขี่ จำนวน 10 ราย จับกุมชาวต่างชาติซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ จำนวน 18 ราย ดำเนินการกับชาวต่างชาติที่ละเมิดกฎหมายจราจร จำนวน 1,625 ราย จับกุมในความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 20 ราย รวมกระทำความผิดทางอาญา จำนวน 103 ราย และกระทำผิดกฎหมายจราจร จำนวน 1,625 ราย

จะเห็นได้ว่าในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อปราบปราม และป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในจังหวัดภูเก็ตไม่ว่าจะเป็น ภ.จว.ภูเก็ต กก.ทท.2 บก.ทท.3 และ ตม.จว.ภูเก็ต ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด ในปี 2567 ถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินการจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำความผิดอาญาจำนวน 2,422 ราย และความผิดจราจร 32,127 ราย จะเห็นได้ว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในจังหวัดภูเก็ต มีความจริงจังในการบังคับใช้กฎหมายกับชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยแล้วไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ก่อความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า ตำรวจยังเดินหน้าดำเนินการในส่วนของการตรวจสอบคนต่างชาติและคนไทย ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการให้ระดมกำลังตรวจค้นผู้ที่เข้าข่ายนอมินีทั้งคนไทยและต่างชาติในเร็วๆ นี้ ไม่ต่ำกว่า 20 จุด กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต มีทั้งที่ในส่วนของเนอร์สเซอรี่ รถเช่า สถานประกอบการต่างๆ มีหลายสัญชาติ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้ดำเนินการไปแล้ว 3 ราย

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ฝากไปยังนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ขอให้ศึกษาและเคารพกฎหมาย อย่าละเมิดหรือกระทำผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และหากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิดต่างๆ โดยเฉพาะการที่ชาวต่างชาติประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย หรือการก่อความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนให้แจ้งไปยังหน่วยงานตำรวจที่ใกล้ท่าน หรือสายด่วน 191 เพื่อทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจุดมุ่งหมายที่ดีที่สุดของการท่องเที่ยว ที่มีความสงบเรียบร้อยและมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน


ด้าน พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า คนต่างชาติที่เข้าพักในภูเก็ตระยะยาวมีอยู่ประมาณ 31,000 คน ส่วนใหญ่เข้ามาทำธุรกิจ ศึกษา และวัยเกษียณ โดยมีชาวรัสเซียเข้ามาอาศัยระยะยาวมากที่สุด และพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ตเป็นพื้นที่ที่คนต่างชาติพักอาศัยมากที่สุดด้วย

โดยคนต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยและท่องเที่ยวในภูเก็ตแล้วกระทำผิดกฎหมายนั้นมีการเพิกถอนวีซ่าในปีที่แล้ว 194 ราย ตั้งแต่ต้นปี 2568 ที่ผ่านมา เพิกถอนไปแล้ว 34 ราย ส่งกลับประเทศในปี 2567 ทั้งหมด 998 ราย และการเปิดฟรีวีซ่าไม่น่าจะใช่สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวกระทำความผิดเพิ่มขึ้น การกระทำความผิดที่เพิ่มสูงขึ้นเกิดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า