ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เดือดแน่ ! ศึกเลือกตั้งนายกเล็กเมืองป่าตอง “จี้หยอย” เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ อดีตนายกฯ และหัวหน้าทีม “ป่าตองฟ้าใหม่” ประกาศพร้อมลงสู้ศึกทวงคืนเก้าอี้ พร้อมทำป่าตองให้เป็นเมืองน่าเที่ยวและเมืองน่าอยู่ เร่งแก้ปัญหาจราจร ปากท้องชาวบ้าน ปัญหาขยะล้นเมือง ก่อนเสียแชมป์เมืองน่าเที่ยว
น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ หรือ “จี้หยอย” หัวหน้าทีม “ป่าตองฟ้าใหม่” อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงการตัดสินใจกลับมาสมัครลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองอีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 พร้อมกับสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตองทีม “ป่าตองฟ้าใหม่” เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2568 ว่า
เกิดจากการเรียกร้องของคนในพื้นที่ป่าตองที่ต้องการให้ตนกลับมาช่วยเมืองป่าตองอีกครั้งหนึ่ง เพราะป่าตองในวันนี้ไม่เป็นไปตามที่ชาวบ้านคาดหวัง ประกอบกับตนเองนั้นมีความตั้งใจที่จะช่วยพัฒนาเมืองป่าตองให้เติบโตและเป็นเมืองที่น่าอยู่ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก การได้กลับมาอีกหนึ่งสมัยจะสามารถช่วยเมืองป่าตอง และได้พูดคุยกับทีมงานการเมืองป่าตองถึงการกลับมาลงสมัครอีกรอบ ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะช่วยกัน แม้แต่ทีมที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจะอยู่กันคนละทีม หลายคนก็พร้อมที่จะมาอยู่กับตนในนามของ “ทีมป่าตองฟ้าใหม่” ทำให้ “ทีมจี้หยอย” หรือ “ทีมป่าตองฟ้าใหม่” ที่จะลงสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นทีมที่พร้อมมากๆ เป็นทีมที่มีทั้งคนของทีมฟ้าตองฟ้าใหม่ ที่เป็นคนเดิม และคนใหม่จากทีมอื่น เพื่อให้เกิดความหลากหลายและมีคนทุกเจนร่วมทีม
“ถึงวันนี้พูดได้ว่า ตนพร้อมาก เพราะเมื่อใจพร้อมตัวก็พร้อม เช่นเดียวกับผู้ลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลของทีมป่าตองฟ้าใหม่ ที่ขณะนี้มีคนครบและพร้อมแล้วทั้ง 3 เขต 18 คน และทางทีมก็ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านมาตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา” หัวหน้าทีมป่าตองฟ้าใหม่ กล่าวและว่า
การกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองครั้งนี้ ตนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเมืองป่าตองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพื่อให้ป่าต้องเป็นเมืองน่าเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลก และเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับคนท้องถิ่นป่าตอง ให้คนป่าตองอยู่อย่างมีความสุข มีความปลอดภัย และรายได้จากการท่องเที่ยวกระจายสู่คนป่าตองทุกกลุ่มทุกชุมชน จึงได้กำหนดนโยบายหลักๆ ในการพัฒนาด้านต่างๆ เช่น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ให้สามารถรองรับการเติบโตของเมือง พัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพเพื่อลูกหลานของชาวบ้าน พัฒนาด้านสังคมให้เป็นเมืองที่มีความปลอดภัย มีความสุข และการดูแลสิ่งแวดล้อม กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นต้น
แต่ปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไขหากได้รับการเลือกตั้ง เพื่อรักษาแชมป์ความเป็นเมืองน่าเที่ยวของป่าตองไว้ มีอยู่ 3 เรื่องหลักๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่ทางทีมได้รับการสะท้อนมาจากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องทั้ง 7 ชุมชน ประกอบด้วย ปัญหาจราจร ซึ่งเป็นปัญหาหนักของป่าตองในขณะนี้ ตนคิดว่าการจัดการปัญหาจราจรนั้น จะต้องแก้โดยภาพรวมไม่สามารถที่จะแก้ไขได้เฉพาะป่าตองเท่านั้น เพราะรถที่เข้ามานั้นมีทั้งรถจากภายนอกและรถในป่าตองเอง จะต้องจัดให้มีรถสาธารณะที่ใช้ได้อย่างสะดวก มีความทันสมัย วิ่งในป่าตองและเชื่อมกับภายนอก เพื่อลดจำนวนรถที่จะขนนักท่องเที่ยวเข้ามา ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด นำระบบ AI มาควบคุมสัญญาณไฟจราจร หาทางเลี่ยงเมืองป่าตองในหลายทาง เพื่อไม่ได้มุ่งเข้ามาป่าตองทั้งหมด สนับสนุนให้ทางจังหวัดเสนอรัฐบาลจัดงบศึกษาการทำเคเบิลคาร์ขนคนจากสนามบินมายังฝั่งตะวันตกของภูเก็ต เส้นทางสนามบินไปจนถึงหาดราไวย์ รวมไปถึงให้รัฐบาลตั้งงบศึกษารถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น
ปัญหาปากท้องของประชาชนชาวป่าตองก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ต้องทำให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้กระจายไปยังชมุชนให้มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดไว้ในหลายเรื่อง และอยากจะให้เกิดขึ้นเพื่อให้รายได้กระจายสู่ชุนชนทั้ง 7 ชุมชน ด้วยการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชนมากขึ้น ด้วยฟุตปาธการเดินทางที่สวยงาม ปลอดภัย ให้นักท่องเที่ยวเดินเชื่อมต่อกันได้ พัฒนาสตรีทฟูดให้ถูกสุขลักษณะมากขึ้น ทำแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆในชุมชน เช่น พัฒนาและส่งเสริมชุมชนคลองปากบาง ที่เป็นชุมชนประมงให้เป็นชุมชนขายอาหารทะเล พัฒนาชุมชนโคกมะขามและกะหลิม เป็นฮาลาลวิลเลจ รวมไปถึงทำให้ชุมชนนาใน เป็นชุมชน Digital Nomad เนื่องจากมีความพร้อมทั้งในเรื่องของที่พักที่ให้เช่าแบบรายเดือน ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ราคาไม่สูงมากนัก คนต่างชาติที่เข้ามาทำงานสามารถพักได้นานๆ และเพิ่มเติมและสนับสนุนในเรื่องของอินเทอร์เน็ตในการรองรับกลุ่มคนทำงานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
และปัญหาขยะล้นเมือง ซึ่งพบว่าปัจจุบันปริมาณขยะในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันที่มีสูงถึงวันละ 200 ตัน จำเป็นที่จะต้องเร่งเคลียร์ขยะออกจากพื้นที่ให้รวดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีขยะกองอยู่ตามจุดต่างๆ ของป่าตอง เป็นภาพลักษณ์ที่ไม่สวยงาม จึงมีแนวคิดที่จะหาพื้นที่ส่วนรวมขยะก่อนที่จะนำไปเผายังเตาเผาขยะในตัวเมืองภูเก็ต ที่ใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน จึงทำให้มีขยะหลงเหลือตามจุดต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 พ.ค.2568 นี้ ขณะนี้มีการเปิดตัวกันไปแล้ว 3 ทีมด้วยกัน ประกอบด้วย ทีมป่าตองฟ้าใหม่ ที่นำทีมด้วย “จี้หยอย” เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ที่พ่ายให้นายเฉลิมศักดิ์ มณีศรี ในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว “ทีมป่าตองสร้างสรรค์” ที่นำทีมโดย “รองอ้อม” น.ส.ลลิตา มณีศรี รองนายกเทศมนตรี ที่ฟอร์มร่วมกับรองนายกฯ อีก 2 คน โดยมี “ปราบ” ปรีชาวุฒิ กี่สิ้น” คนดังแห่งเมืองป่าตอง เป็นกุนซือและผู้สนับสนุน และทีมของนายปกริช กี่สิ้น ลูกชายนายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองที่เสียชีวิตไปแล้ว การแข่งขันครั้งนี้ดุเดือดอย่างแน่นอน