xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มแล้ว! งาน “Andaman Trade Fair @phuket” ยกทัพสินค้าฝั่งอันดามัน 300 ร้าน พบผู้ซื้อพร้อมเจรจาธุรกิจ เพิ่มช่องทางตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เริ่มแล้วงาน Andaman Trade Fair @phuket” มหกรรมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ ยกทัพสินค้าชุมชน สินค้าอัตลักษณ์ฝั่งอันดามัน 300 ร้าน ออกบูทพบผู้ซื้อและจัดเวทีเจรจาการค้า เพื่อยกระดับสินค้าและเพิ่มช่องทางการตลาดให้สินค้าชุมชน


เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (12 ก.พ.) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “Andaman Trade Fair @phuket” งานมหกรรมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ โดยมี นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต น.ส.วรนิษฐ์ อภิรัฐจิรวงษ์ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นายมนต์ทวี หงษ์หยก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน เข้าร่วม ณ Phuket Outdoor Arena ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ฟอร์เรสต้า ภูเก็ต


สำหรับงาน “Andaman Trade Fair @phuket” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์ 258 ณ Phuket Outdoor Arena ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ฟอร์เรสต้า ภูเก็ต เพื่อนำเสนอสินค้าจากผู้ประกอบการ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ได้แก่ สินค้าชุมชน สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าพื้นถิ่น สินค้านวัตกรรม และสินค้า BCG ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง/ท่องเที่ยวชุมชน และสินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูป พร้อมทั้งการเจรจาธุรกิจอีกด้วย



นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวรายงานว่า งาน “Andaman Trade Fair @phuket งานมหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าและเจรจาธุรกิจในวันนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากในการประชุมรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปิงบประมาณ 2567 ซึ่งเป็นงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กว่า 28 ล้านบาท ให้กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อดำเนินโครงการผนึกกำลังผู้ประกอบการทางการค้ากับเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดามันเชิงสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 3 กิจกรรม


1.กิจกรรมการจัดมหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพที่ได้รับการยกระดับ โดยผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและเจรจาธุรกิจ วงเงิน 23.8 ล้านบาท ดำเนินการใน 4 จังหวัด ได้แก่ พังงา ระนอง กระบี่ วงเงินจังหวัดละ 6.2 ล้านบาท และจังหวัดภูเก็ตวงเงิน 9 ล้านบาทเศษ กิจกรรมที่ 2 จัดทำระบบ Platform ข้อมูลสินค้าและบริการ SMEs Andaman วงเงิน 460,000 บาท และกิจกรรมที่ 3 จัดอบรมหลักสูตรการปรับตัวเข้าสู่การค้ายุคดิจิทัล Digital Trading Platform ให้ SMEs ภาคใต้ฝั่งอันดามัน วงเงิน 583,000 บาท


นายโสภณ กล่าวต่อว่า การสนับสนุนและการพัฒนาความเข้มแข็งของเศรษฐกิจการค้าของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล) อย่างยั่งยืน ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้เล็งเห็นถึงผลประโยชน์ในระยะยาวของการเชื่อมโยงกันระหว่างตลาดเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวว จึงเกิดโครงการนี้ขึ้น เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการพัฒนาทางการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ประกอบการ เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ตลอดจนส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ แก่นักท่องเที่ยวผ่านการท่องเที่ยวชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นการยกระดับตลาด กระจายสินค้าเกษตร สินค้าอัตลักษณ์หลากหลายชนิด เช่น 

ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาหารทะเล สินค้าแปรรูปท้องถิ่น สินค้าเกษตร GI สินค้าเกษตรแปรรูป เป็นต้น อันจะนำไปสู่การกระจายได้และพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามันอย่างยั่งยืน เป็นการลดการพึ่งพาจากภายนอก เชื่อมโยงความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้าภายในประเทศและส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการ


ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า การจัดงาน ANDAMAN TRADE FAIR@PHUKET มีกำหนดจัดงาน 5 วัน
ระหว่างวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ลาน Outdoor Arena ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า มีร้านค้าเข้าร่วม 300 ร้าน จากผู้ประกอบการ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ประกอบด้วยสินค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าชุมชน สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าพื้นถิ่น สินค้านวัตกรรม และสินค้า BCG ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง/ท่องเที่ยวชุมชน และสินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูป



ด้าน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวที่หลากหลาย และมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะทรัพยากรการท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวระดับนานาชาติ แต่จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา การปิดประเทศและมาตรการล็อกดาวน์ทำให้การเดินทางทั้งในและต่างประเทศหยุดชะงักส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร บริษัททัวร์ และกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำและทริปท่องเที่ยวทางทะเลได้รับผลกระทบอย่างหนัก การส่งเสริมเศรษฐกิจนอกภาคการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจและลดการพึ่งพิงแหล่งรายได้จากภาคท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในหลากหลายภาคส่วน ขอบคุณจังหวัดภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝังอันดามันที่หันมาส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs เกษตรตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน


ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันที่สูงขึ้น การมีพื้นที่ในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า รวมถึงการเจรจาธุรกิจ ถือเป็นโอกาสการสร้างการเชื่อมโยงและการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้า รวมถึงการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ จะช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและขยายตลาดไปสู่ระดับใหม่


ในงานนี้จะได้พบกับสินค้าที่มีคุณภาพหลากหลายจากผู้ประกอบการมากมายซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความรู้จักในตลาดและทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ยังเปิดโอกาสในการเจรจาธุรกิจที่จะนำไปสู่ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย การเชื่อมโยงธุรกิจในวันนี้จะสามารถเสริมสร้างเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต 


การเจรจาธุรกิจในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่ หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์สูงสุดจากกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพบปะกับพันธมิตรทางธุรกิจ การขยายตลาด หรือการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ 






กำลังโหลดความคิดเห็น