ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งมาโดยตลอด บางปีแล้งหนักน้ำในเขื่อนแห้งขอด ปีนี้ก็เช่นกัน หลายฝ่ายกังวลว่าน้ำจะไม่พอ จากที่น้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ด้าน ผอ.ชลประทาน ยืนยันน้ำมีกว่า 14 ล้าน ลบ.ม.แต่บางวาดน่าห่วง น้ำลดเร็ว จากฝนทิ้งท่วง-นักท่องเที่ยวเพิ่ม รองรับได้ปลายเดือน พ.ค.นี้
ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ภูเก็ตจะต้องเผชิญ และยิ่งปีไหนที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ฝนทิ้งช่วงนาน ปริมาณน้ำดิบในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นที่กังวลว่าภูเก็ตจะขาดแคลนน้ำหรือไม่ น้ำที่มีอยู่จะใช้ได้เพียงพอในช่วงวหน้าแล้งหรือไม่
เช่นเดียวกับปีนี้ที่หน้าแล้งใกล้เข้ามาแล้ว หลายภาคส่วนในภูเก็ต มีความกังวลเรื่องปริมาณน้ำที่มีอยู่จะเพียงพอต่อความต้องการ การใช้น้ำในช่วงหน้าแล้งนี้หรือไม่ เพราะปีนี้ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับน้ำในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะหากภูเก็ตขาดน้ำจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับภาคการท่องเที่ยว
เรื่องนี้ ผอ.โครงการชลประทานภูเก็ต นายเกริกศักดิ์ ลีนานนท์ ได้ไขข้อข้องใจของหลายฝ่ายที่กังวลเรื่องขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งปีนี้ ว่า ภูเก็ตมีแหล่งน้ำดิบที่เป็นอ่างเก็บน้ำอยู่ในการดูแลของชลประทานมี 3 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำบางวาด ปัจจุบันนี้มีน้ำอยู่ประมาณ 6 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 59.5% ของความจุอ่าง เขื่อนบางเหนียวดำ ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง มีน้ำอยู่ประมาณ 5.29 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 68% และอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ปริมาณน้ำอยู่ที่ 70.7% รวมทั้ง 3 อ่าง ขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลือประมาณ 14.2 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 64.6%
“ถือว่าปริมาณที่มีอยู่ในขณะนี้ยังดีอยู่ และสามารถรองรับการใช้น้ำในช่วงหน้าแล้งปีนี้ได้เพียงพอไปจนถึงปลายเดือน พ.ค.นี้ แต่ในส่วนของอ่างเก็บน้ำบางวาดจะต้องมีการบริหารจัดการน้ำร่วมกับทางการประปาส่วนภูมิภาคและเทศบาลนครภูเก็ต เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำลดลงเร็วกว่าปีที่แล้วประมาณ 5% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจำนวนมาก ทำให้การใช้น้ำเพิ่มสูงตามไปด้วย และในช่วงเดือน ธ.ค.และ ม.ค.ที่ผ่านมา ปริมาณฝนที่ตกลงมาน้อยมากทำให้การสูบน้ำจากคลองบางใหญ่เข้าเขื่อนได้น้อยลง ทางการประปาและเทศบาลนครภูเก็ตจึงต้องมีแผนสำรองในการสำรองแหล่งน้ำดิบไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมถือว่ายังไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใดสำหรับปริมาณน้ำดิบที่จะนำมาผลิตน้ำประปา ที่ทั้ง 3 เขื่อนมีกว่า 14 ล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับได้ไปจนถึงปลายเดือน พ.ค. ซึ่งช่วงนั้นคิดว่าฝนน่าที่จะตกลงมาเติมได้แล้ว และจากการพยากรณ์ของกรมอุตุฯ ปีนี้ฝนจะมาประมาณกลางเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งหากฝนตกลงมาตามที่ได้มีการพยากรณ์ไว้ภูเก็ตไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำสำหรับหน้าแล้งปีนี้
สำหรับปริมาณการใช้น้ำนั้น สำหรับเขื่อนบางวาดอยู่ที่วันละประมาณ 50,000-65,000 ลบ.ม.แบ่งเป็นการประปา 42,000 ลบ.ม. เทศบาลนครภูเก็ต 23,000 ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ 30,000 ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ 15,000-16,000 ลบ.ม.
นายเกริกศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของภูเก็ตนั้น ในระยะเร่งด่วน ทางกรมชลประทานมีแผนที่จะขุดลอกอ่างเก็บน้ำบางวาดเพื่อเพิ่มพื้นที่การกักเก็บน้ำให้มากขึ้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการของบประมาณมาดำเนินการ และในระยะยาวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโครงการที่จะนำน้ำจากเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี มายังภูเก็ต แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ