ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ “ล่าปิดเกาะ ทลายทุนเทาข้ามชาติ” รวบแก๊งไต้หวันเทา กลางเกาะภูเก็ต ร่วมคนไทย สร้างระบบ PAYMENT ปกปิดเส้นเงินเว็บพนัน
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ บช.สอท. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.รรท.รอง ผบช.สอท. และ พ.ต.อ.ศุภกร ผิวอ่อน รอง ผบก.สอท.3 รรท.ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวเปิดปฏิบัติการ “ล่าปิดเกาะ ทลายทุนเทาข้ามชาติ” หลัง ผบช.ไซเบอร์ นำกำลังบุกรวบแก๊งไต้หวันเทา กลางเกาะภูเก็ต ร่วมคนไทยสร้างระบบ PAYMENT ปกปิดเส้นเงินเว็บพนัน มีเงินหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจไซเบอร์ สอท.5 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันสืบสวน จนพบข้อมูลว่า ได้มีเว็บไซต์พนันออนไลน์จำนวนมาก เช่น GoatBet178, Icb365, Lavaslot777, Lava123, Sexybestbacarat, Sabestbacarat และอีกหลายเว็บไซต์ ซึ่งมีการจับกุมในฐานความผิดโฆษณาชักชวนให้เล่นพนันและร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมายไปแล้ว แต่จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของเว็บไซต์เหล่านี้ พบว่า เมื่อมีการโอนเข้าบัญชีเว็บไซต์การพนัน ยอดเงินดังกล่าวจะถูกโอนต่อออกไปทันทีเป็นทอดๆ ครั้งละหลายสิบบัญชีอย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากระบบบัญชีม้ารูปแบบเดิม ที่เว็บไซต์การพนันออนไลน์ใช้กัน ที่มักโอนต่อกันเป็นทอดๆ จนถึงผู้รับผลประโยชน์
นอกจากนั้นตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ต้องหานี้ได้สร้างระบบการเงินสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ ชื่อ tsn7.yourpay และ แอปพลิเคชันสำหรับติดตั้งลงในโทรศัพท์ ทั้งระบบ Android และ iOS ชื่อ Tsnupay พร้อมทั้งว่าจ้างคนไทยในพื้นที่ให้เปิดบัญชีม้า และ ทำหน้าที่สแกนใบหน้า เพื่อรับโอนเงินให้แก่เว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ว่าจ้าง โดยได้รับเงินส่วนแบ่งจากยอดเงินที่โอนผ่านระบบดังกล่าว
โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้มีทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ ทำหน้าที่รับดูแลและปกปิดเส้นทางการเงินให้แก่เว็บไซต์การพนันออนไลน์ ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์การพนันไม่ต้องจัดหาบัญชีม้าเอง เมื่อมีการโอนเงินเข้ามายังระบบดังกล่าวที่ถูกติดตั้งไว้ในโทรศัพท์มือถือ ยอดเงินจะถูกโอนต่อไปยังบัญชีที่ตั้งไว้อัตโนมัติ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนจนกระทั่งทราบ ว่า กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่รับดูแลระบบการเงินดังกล่าว เป็นกลุ่มชาวไต้หวัน ที่เดินทางเข้ามากระทำความผิด และกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้มักย้ายสถานที่ตลอดเวลา และเลือกเช่าบ้านหรูหรือคอนโดมิเนียมราคาแพงเพื่อตั้งเป็นฐานบัญชาการ เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ ทำให้ยากต่อการเข้าไปสืบสวน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้แล้ว จำนวน 29 ราย
ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 10 ก.พ.68 เวลาประมาณ 15.30 น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 พร้อมหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในโครงการหมู่บ้านหรู ในพื้นที่ ถ.เทพกษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากการตรวจค้นภายในบ้าน พบบุคคลสัญชาติไต้หวันทำหน้าที่ดูแลระบบการเงิน และคนไทยที่คอยทำหน้าที่สแกนใบหน้าเพื่อโอนเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 6 ราย เป็นบุคคลสัญชาติไต้หวัน จำนวน 3 ราย และคนสัญชาติไทย จำนวน 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ 1.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ รวม 119 เครื่อง 2.เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 2 เครื่อง 3.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 19 เล่ม 4.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 6 เม็ด 5.ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเค) น้ำหนัก 74.5 กรัม
โดยชาวไต้หวันที่โดนจับกุมในบ้านหลังดังกล่าว มีหน้าที่ดูแลไม่ให้โทรศัพท์หน้าจอดับ เพื่อให้ระบบทำงานตลอดเวลา และคอยตรวจสอบยอดเงินให้ตรงกับสลิปการโอน หากโปรแกรมแจ้งเตือนจะเรียกคนไทยที่เป็นบัญชีม้ามาสแกนหน้าโอนเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบพบมียอดเงินโอนผ่านระบบเกือบ 10 ล้านบาทต่อวัน
จากการสอบถามผู้ต้องหาชาวไต้หวัน เบื้องต้นรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชาวไต้หวันให้เดินทางมาทำงานดูแลระบบในประเทศไทย โดยได้ค่าตอบแทน 50,000 บาทต่อเดือน สลับสับเปลี่ยนกันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนคนไทยได้รับค่าจ้างเปิดบัญชีคู่กับลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวนบัญชีละ 2,500 บาท โดยให้เปิดบัญชีธนาคารคนละ 4 บัญชี และได้เงินตอบแทนในการสแกนใบหน้า จำนวน 20,000 บาทต่อเดือน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เป็นธุระจัดหาโฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีเงินฝาก เลขหมายโทรศัพท์ เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากหรือหมายเลขโทรศัพท์ โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด และมียาเสพติดให้โทษประเภทประเภท 1 และ 2 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวนับเป็นองค์กรฟอกเงินข้ามชาติที่พยายามปกปิดเส้นทางการเงินในการกระทำความผิดของกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์กำลังเร่งตรวจพิสูจน์ของกลางและโทรศัพท์มือถือที่ตรวจพบทั้งหมด และติดตามเส้นทางการเงินเพื่อเชื่อมโยงไปยังผู้กระทำความผิดอื่นๆ ทุกเว็บไซต์ โดยคาดว่าจะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้