ชุมพร - ผู้จัดการร้านอาหารดังที่ชุมพรผวา ต้องลาออก หลังทวงเงิน 45 บาท จากแฟนพนักงานร้านที่มานั่งดื่ม และออกจากร้านโดยไม่จ่ายเงิน จนเพื่อนต้องจ่ายแทน แต่เรื่องไม่จบคู่กรณีกลับมาด่าทอพร้อมชักปืนขู่ โร่แจ้งความหวั่นไม่ปลอดภัย
นายภณศรีภูมิ เศรษฐทัพท์ภาม อายุ 53 ปี ผู้จัดการร้านอาหารซัมเมอร์ บรีช ได้นำภาพกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูก นายธนวัฒน์ หรือเล็ก อนุมัติ แฟนหนุ่มของพนักงานสาวในร้าน ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ได้ชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมาออกมาจากเอวมาข่มขู่ โดยเหตุเกิดที่ร้านอาหารซัมเมอร์ บรีช ตั้งอยู่ริมชายหาดทุ่งวัวแล่น ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งกล้องวงจรปิดของร้านได้บันทึกภาพได้
โดยในคลิปได้ยินเสียงของนายธนวัฒน์ ที่ชักอาวุธปืนสั้นออกมาข่มขู่ และด่าทอด้วยคำพูดที่รุนแรง ก่อนจะมีเพื่อนมาช่วยพูดเกลี้ยกล่อมห้ามปราม จากนั้นไม่นานเดินออกจากร้าน ขึ้นรถ จยย.ขับออกไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น.ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 68 ที่ผ่านมา
นายภณศรีภูมิ เศรษฐทัพท์ภาม ผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า การที่ตนได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิดกับ นายธนวัฒน์ เพราะหลังจากที่เกิดเหตุขึ้น ตนได้บอกเจ้าของร้าน และลาออก เพราะรู้สึกว่าหากยังทำงานอยู่จะไม่ปลอดภัย ไม่รู้ว่าจะโดนทำร้ายเมื่อไหร่ จึงตัดสินลาออกจะดีกว่า เพราะตนมีลูกต้องเลี้ยง มีแม่ที่พิการสายตาต้องคอยดูแล หากตนเป็นอะไรไปสักคน ครอบครัวจะอยู่กันอย่างไร ตนเองเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงครอบครัว จึงขออยู่อย่างปลอดภัยดีกว่า
นายภณศรีภูมิ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุนั้น สืบเนื่องมาจาก นายธนวัฒน์ ได้มานั่งดื่มสุราที่ร้าน ในฐานะลูกค้าที่มานั่งดื่มเป็นประจำแทบทุกคืน เพราะต้องมารอรับนางจิตตา หรือ เจเจ ซึ่งเป็นพนักงานที่ร้านและเป็นแฟนของนายธนวัฒน์ และเมื่อร้านใกล้ถึงเวลาจะปิดร้าน จึงให้พนักงานไปสอบถามลูกค้าคือ นายธนวัฒน์ ว่าต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่ เพราะร้านจะปิดแล้ว หากไม่รับอะไรเพิ่มจะขอเช็กบิล เพราะตนจะต้องเคลียร์ยอดบัญชีส่งให้เจ้าของร้าน ซึ่งมีน้ำ 1 ขวด 20 บาท และ โซดา อีก 1 ขวด ราคา 25 บาท รวมทั้งหมดในบิล 45 บาท แต่เมื่อพนักงานไปไม่พบนายธนวัฒน์ แล้ว ตนจึงได้ส่งข้อความไปที่ นางจิตตาแฟนของ นายธนวัฒน์ ว่าให้ช่วยกลับมาจ่ายชำระค่าอาหารด้วย
นายภณศรีภูมิ กล่าวต่อว่า ไม่นานทางนายธนวัฒน์ ได้ติดต่อมาและให้ตนเองส่ง QR โค้ดไปให้ และเมื่อตนเองส่งไปให้ ก็ไม่สามารถสแกนเงินได้ จึงมีการพิมพ์คุยผ่านข้อความกันสักระยะหนึ่ง จนเพื่อนที่นั่งในร้านมาช่วยจ่ายแทนให้ ซึ่งตนนึกว่าจบแล้ว แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะอีกไม่นาน ขณะที่ตนและพนักงานในร้าน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด กำลังช่วยกันเคลียร์เก็บร้านกันอยู่ นายธนวัฒน์ ได้ขับรถ จยย.มาจอดที่หน้าร้าน ก่อนจะเดินตรงมาที่ตนเอง พร้อมกับต่อว่าด่าทอต่างๆ นานา ด้วยถ้อยคำรุนแรง พร้อมทั้งได้ชักอาวุธปืนพกสั้นออกมาจากเอวกระชากขึ้นลำเสียงดังออกมาข่มขู่ตน ไม่นานก็เอาเข้าไปเหน็บไว้ที่เอวเหมือนเดิม
แล้วยังพูดจาด่าทอตนต่างๆ นานา จากนั้นได้มีเพื่อนของนายธนวัฒน์ เดินมาพูดคุยห้ามปราม จนสักพักเดินออกไปจากร้านไป รุ่งขึ้นตนจึงตัดสินใจว่าหากอยู่ทำงานที่ร้านจะต้องเจอกันอีก ทางที่ดีเพื่อความปลอดภัยจึงได้ลาออก มาทำงานที่สนามยิงปืนชุมพร เพื่อความปลอดภัยและไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เอาผิดกับนายธนวัฒน์ดังกล่าว
