ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศรชล.ภาค 3 ร่วมทัพเรือภาค 3 จับกุมเรือประมงพม่าพร้อมลูกเรือชาวพม่า 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในน่านน้ำไทย ใกล้เกาะค้างคาว จ.ระนอง แจ้งข้อหารุกล้ำน่านน้ำไทย ยืนยันการจับกุมเป็นไปเพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยทางทะเลไม่ใช่การตอบโต้กรณี 4 ลูกเรือไทยที่ถูกทางการพม่าจับกุมก่อนหน้านี้
วันนี้ (8 ก.พ.) พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) ได้สั่งการให้เรือ ต.274 เรือ ต.271 บูรณาการร่วมกับเรือ ศรชล.4015 จากศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดพังงา เข้าทำการควบคุมเรือประมง สัญชาติพม่า พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือรวม 13 คน เข้ามาถึงท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ จังหวัดระนอง
หลังจากเมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (8 ก.พ.) ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดพังงา ได้รับแจ้งข่าวสารจากเรือประมงที่ทำการประมงอยู่ในพื้นที่ทางทะเลของจังหวัดพังงาเชื่อมต่อจังหวัดระนอง เมื่อเวลา 09.30 น.ว่า พบเรือประมง ซึ่งคาดว่าเป็นเรือประมงต่างชาติอยู่ในพื้นที่น่านน้ำไทย ศูนย์ปฏิบัติการ ศรชล.ภาค 3 จึงสั่งการให้เรือในบัญชีกำลังของ ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วยอากาศยานจากหมวดบินเฉพาะกิจ กองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ออกทำการตรวจพบเรือต้องสงสัยจำนวน 2 ลำ ขณะจอดลอยลำอยู่ใกล้กันในน่านน้ำไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเลอาณาเขตของจังหวัดระนอง ใกล้กับเกาะค้างคาว
เมื่อเข้าตรวจสอบพบเรือลำแรก มีกัปตันเรือ และลูกเรือ จำนวน 9 คน สัญชาติพม่า อยู่บนเรือ โดยไม่มีเอกสารเข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนอีกลำพบเป็นเรือประมงพื้นบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ มีลูกเรือชาวพม่า จำนวน 3 คน และคนไทย 1 คน ภายในเรือยังพบน้ำมันดีเซลขนาด 200 ลิตร จำนวน 8 ถัง รวม 1,600 ลิตร อยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาทำการสอบสวน
เบื้องต้นทำการแจ้งข้อกล่าวหา จำนวน 5 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วยนำเรือรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ไม่มีเอกสารใบอนุญาตใช้เรือแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ไม่มีเอกสารคนประจำเรือแสดงต่อเจ้าหน้าที่ นำเรือไม่แสดงธงสัญชาติเข้ามาในราชอาณาจักร และข้อหาลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง (ดีเซล) จำนวน 1,600 ลิตร นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธี ศุลกากร ส่งตัวทั้งหมดดำเนินคดี ที่ สภ.ปากน้ำจังหวัดระนอง
โดยหลังจากนี้ พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้สั่งการให้ ศรชล.จังหวัดระนอง ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระนอง สถานีตำรวจภูธรปากน้ำ ตรวจคนเข้าเมืองระนอง สถานีตำรวจน้ำระนอง สำนักงานเจ้าท่าระนอง ด่านศุลกากรระนอง ด่านตรวจประมงระนอง สรรพสามิตระนอง และป้องกันจังหวัดระนอง ในการดำเนินคดีตามกฎหมายและทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลเชิงลึกต่อไป
