ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชมรมสถาบันการเงินอิสลาม ร่วมกับ ชุมนุมสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย จับมือ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการผลิตบุคคลากร
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ ( 5 ก.พ.) มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.หิรัญ ประสานการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมกับ ชมรมสถาบันการเงินอิสลาม และ ชุมนุมสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย โดยนายแวอัสมา แวอูมา กรรมการชุมนุมสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน โดยมี อาจารย์ ดร.เบญจพร พงษ์นริศร รองคณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร ผู้ช่วยศาตราจารย์อับดุลรอชีด เจะมะ เลขาธิการเครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมทั้งตัวแทนจากชุมนุมสหกรณ์อิสลาม จากจังหวัดต่าง และ ชมรมสถาบันการเงินอิสลาม เข้าร่วม ณ ห้องประชุมสุพรรณิการ์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
ซึ่งบันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน โดยตั้งคณะทำงานของทั้ง 2 ฝ่าย มาประชุมหารือ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการผลิตและพัฒนาบุคคลากรที่ทำงานด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินเข้าสู่ตลาดระดับประเทศ และ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการและด้านการเงินอิสลามของทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีขอบเขตความร่วมมือ ในเรื่องของการจัดการเรียนการสอน การวิจัย การจัดหลักสูตรร่วม การถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี การให้บริการทางวิชาการ กิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรมวิชาการอื่นๆ เช่น กิจกรรมด้านกีฬา กิจการนักศึกษษ การจัดประชุมวิชาการระหว่างประเทศ การเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการ และอื่นๆ
โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หิรัญ ประสานการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมกับชมรมสถาบันการเงินอิสลาม กล่าวถึงการร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ ในครั้งนี้ ว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทบาลัยในการพัฒนาท้องถิ่นโดยมีแนวทางความร่วมมือที่หากหลาย เช่น การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างบุคลากร การวิจัยและการพัฒนา การบริการวิชาการแก่สังคม และ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดกรอบความร่วมมือและกิจกรรมต่างๆ ที่จะดำเนินการร่วมกันระหว่างชุมนุมสหกรณ์ฯ และ มาหาวิทยาลัยราชภัฏ โดยจะมีการแต่งตั้งผู้แทนทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อประสานและติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาสหกรณ์อิสลามในท้องถิ่น โดยจะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ประสบการณ์ และทรัพยากรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับขวนการสหกรณ์อิสลามต่อไป
ด้านนายแวอัสมา แวอูมา กรรมการชุมนุมสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อพัฒนาความสามารถของบุคลากรให้มีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การทำงานของสหกรณ์อิสลามมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น และ บุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจในหลักปฏิบัติของสหกรณ์อิสลามที่มีความแตกต่างกับสหกรณ์อื่นๆ รวมทั้งเพื่อสร้างบุคคลากรมืออาชีพมาทำงานแทนบุคลากรอาสา เพื่อให้มีการพัฒนาเท่าทันเทคโนโลยี และมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น และการร่วมลงนามในครั้งนี้เชื่อว่าส่งผลดีต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอน