พัทลุง - น้องสาวแจ้งตำรวจหลังพี่สาวนำพ่อแม่ไปกักตัวในบ้านเช่านาน 3 เดือน ระบุทำเพื่อหวังฮุบมรดกที่ดิน 30 ล้านบาท ด้านพี่สาวเผยไม่ได้คิดทำร้ายพ่อแม่หวังฮุบมรดก ที่พามาดูแลเพราะไม่พบพี่เลี้ยงตอนไปเยี่ยมบ้าน
วันนี้ (5 ก.พ.) นาง พ (นามสมมติ) ผู้เป็นน้องสาว ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง โดยกล่าวหาว่า นาง ป (นามสมมติ) ซึ่งเป็นพี่สาว ได้เอาพ่อแม่ไปกักขังไว้ในบ้านเช่านานกว่า 3 เดือน โดยไม่บอกให้ตนเองทราบ พร้อมทั้งไม่บอกญาติให้รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน จนกระทั่งเธอกลับมาจากต่างประเทศและได้สืบทราบว่าพี่สาวนำพ่อและแม่ไปขังไว้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองพัทลุง จึงเข้าแจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือพ่อแม่ให้ตนเองกลับมาเลี้ยงดู เนื่องจากแม่ป่วยติดเตียง พ่อกล้ามเนื้ออ่อนแรง เกรงจะไม่ปลอดภัย
นาง พ น้องสาว เล่าว่า พี่สาวได้นำพ่อกับแม่ไปไว้บ้านเช่าโดยไม่ได้แจ้งให้น้องทราบ เพราะมีปัญหากันเรื่องมรดก โดยตนเคยไปแจ้งความพี่สาวไว้แล้วด้วย เนื่องจากให้แม่กินยาจิตเวชโดยที่หมอไม่ได้สั่งเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ซึ่งทำให้แม่เป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยตอนนั้นตนไม่ได้กลับมาไทย โดยกลับมาล่าสุดเดือนมิถุนายน 2567 และกลับไปต่างประเทศสิ้นเดือนกันยายน 2567
เมื่อตนกลับไปต่างประเทศ พี่สาวมาแย่งตัวพ่อแม่อออกไปจากบ้านเลย พร้อมทั้งไปค้นโฉนดที่ดินและจะให้พ่อโอนที่ดินให้เขาตอนนั้น แต่พ่อไม่โอนให้เนื่องจากที่ดินที่พี่สาวจะเอานั้น พ่อได้โอนให้ตนเองไปแล้วก่อนหน้านั้น โดยที่ดินมรดกแบ่งโอนพี่สาวเท่าๆ กัน แต่มีอีกแปลงที่เป็นชื่อของตนเอง เนื้อที่ 7 ไร่ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท พี่สาวจะเอาดินแปลงนั้นแบ่งกับตนเอง แต่ตนเองไม่ยอม เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่พ่อแม่แบ่งให้ไป บางส่วนพี่สาวได้ขายไปแล้ว ตนเองจึงไม่ยอมให้แบ่งอีก ทำให้เกิดเรื่องหมางใจกันมาตลอด
โดยช่วงที่ตนเองเดินทางกลับไปต่างประเทศเมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2567 ตนเองได้จ้างญาติให้มาดูแลแม่กับพ่อที่บ้าน แต่พี่สาวกับพาพ่อและแม่ไปอยู่ที่บ้านเขาได้ประมาณ 1 เดือน แต่สามีพี่สาวไม่ให้พ่อกับแม่อยู่ที่บ้านบอกว่าเหม็นคนพิการ แทนที่จะนำกลับมาไว้ที่บ้านกลับนำไปไว้บ้านเช่าขังไว้ในห้องไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน จนได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจดังกล่าว เพราะเกรงหากนานกว่านี้พ่อกับแม่คงไม่รอด เพราะหลายครั้งก่อนหน้านี้ตนเองพยายามดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่บ้านพ่อแม่ พบพี่สาวชอบดุด่าพ่อกับแม่ และพยายามพิมพ์ลายนิ้วมือพ่อหลายครั้ง แต่พ่อไม่ยอมพิมพ์ ก่อนจะตามจนเจอว่าพี่สาวได้นำพ่อกับแม่มาไว้ที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว
โดยเมื่อไปถึงประตูห้องได้ปิดไว้ แจ้งเจ้าของอพาร์ตเมนต์ว่ามาตามหาพ่อกับแม่ แต่คนดูแลไม่เปิดประตูให้ ก่อนคนดูแลโทรหาพี่สาวให้มา แต่ประตูห้องที่พ่อแม่อยู่เปิดไม่ได้พูดคุยนานเกือบชั่วโมง ก่อนใช้ค้อนทุบประตูเพื่อเข้าไปดูพ่อกับแม่ที่หน้าตาอิดโรย
ทั้งนี้ นาง พ น้องสาว บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้พ่อยังเดินได้ตามปกติ แม่ป่วยติดเตียง แต่พ่อมาอยู่นี่ 3 เดือนกลับเดินไม่ได้ ก่อนนำตัวพ่อและแม่ส่งโรงพยาบาลพัทลุง เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือตรวจร่างกาย ว่ามีการใช้สารพิษอะไรให้พ่อแม่กินบ้าง เนื่องจากร่างกายอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหากพบว่าพ่อแม่ถูกวางพิษทำให้ร่างกายอ่อนแอลง จะแจ้งความดำเนินคดีกับพี่สาวต่อไป
ขณะที่ นาง ป กล่าวว่า เรื่องที่น้องสาวกล่าวอ้างไม่เป็นความจริง ตนเองไปดูพ่อแม่วันที่น้องสาวไปต่างประเทศ แต่ไม่เห็นพี่เลี้ยงจึงได้พาพ่อแม่มาเลี้ยงที่บ้านโดยจ้างพี่เลี้ยง แต่บ้านแคบไม่มีห้องให้พี่เลี้ยงพักเลยมาเช่าอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว พี่เลี้ยงก็ดูแลพ่อแม่ดี ตนไปรับยามาจาก รพ. ให้พ่อแม่กินตลอด คนเป็นลูกไม่ได้คิดทำร้ายพ่อแม่หวังฮุบมรดกตามที่น้องสาวกล่าวอ้างแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามทำไมไม่ให้พ่อแม่กลับไปอยู่บ้านตามเดิม พี่สาวบอกกลับไปไม่ได้ เนื่องจากน้องสาวได้แจ้งความตนเองไม่ให้เข้าบ้านหลังดังกล่าวหลังมีปัญหากัน