ชุมพร - น้ำตามท่วมวัด เผาศพ 3 แม่ลูก เหยื่อสาวทอมขับ BMW พุ่งชน ไร้เงาคู่กรณีร่วม พ่อถามมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า ทนายแก้ว เผยไม่หนัก ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 24 ล้าน ขอให้ริบรถ
จากกรณีสาวทอมขับรถ BMW ด้วยความเร็วสูงถึง 207 กม./ชม. พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ทำให้ 3 แม่ลูกดับอนาถ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดบนถนนทางหลวงชนบทสาย จ. แยกโค๊ก-ทุ่งเบี้ย หมู่ 1 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ม.ค.2568 นายประกฤษณ์ รัตนภา อายุ 50 ปี สามีและพ่อของเด็กที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ได้ เดินทางไปที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนย้ายร่าง 3 แม่ลูก ไปวัดสุวรรณนัทธี หรือวัดคูขุด ตั้งอยู่ ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร เพื่อทำการฌาปนกิจ โดยมี ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว มาร่วมในพิธีฌาปนกิจในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนั้น ยังมีผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนที่ทราบข่าว และเพื่อนนักเรียนโรงเรียนศรียาภัย ชั้น ม.2 และ ม.4 มาร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้ายเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากทำพิธีสวด วางผ้าบังสุกุล วางดอกไม้จันเสร็จสิ้น พิธีทางศาสนา เพื่อนนักเรียนร่วมใจกันร้องเพลงสลักจิตและเพลงฝนตกไหม ให้เพื่อนฟังเป็นครั้งสุดท้าย บางคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ กอดกันร่ำไห้ ท่ามกลางผู้คนที่ร่วมเดินทางมาแสดงความเสียใจในพิธีฌาปนกิจ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
เช่นเดียวกับนายประกฤษณ์ ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร่ำไห้ขณะเพื่อนลูกชายและเพื่อนลูกสาวร้องเพลงไว้อาลัย ก่อนจะเคลื่อนศพขึ้นเมรุ โดยที่เพื่อนๆ นักเรียนที่มาร่วมงานช่วยกันยกหีบศพขึ้นบนเมรุอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกับบอกว่า ต้องดูแลแม่ป่วยติดเตียงและยังต้องไปทำงาน ซึ่งมีเวลาน้อยมากแต่ต้องดำเนินชีวิตต่อไป อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการพิจารณาเพื่อคดีจะได้สิ้นสุดให้เร็วขึ้น ส่วนคู่กรณีก็อยากถามสั้นๆ ว่ายังมีความเป็นคนอยู่ไหม
หลังจากนั้นทนายแก้ว และนายประกฤษณ์ เปิดเผยว่า คดีนี้อัยการฟ้องหลายข้อหา หลักๆ คือ ประมาททำให้บุคคลถึงแก่ความตาย รวมถึงตรวจพบสารเสพติดด้วย และ กรณีพิเศษขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถ BMW ของกลางด้วย ก่อนหน้านี้ในชั้นพนักงานอัยการ เปิดโอกาสให้ไกล่เกลี่ยก็ไม่มา หลังจากไปกราบขอขมาศพหลังจากนั้นไม่เคยมาหรือติดต่ออีกเลยจนถึงปัจจุบัน เงินเยียวยาไม่เคยได้รับ รับเพียงเงินประกันเท่านั้น เงินจากฝ่ายผู้ละเมิดผู้ขับขี่และทางญาติก็ยังไม่มี
ในส่วนเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจำนวน 24 ล้านเศษ จากการลำดับเหตุการณ์เด็กทั้งสองคนและภรรยา เด็กทั้งสองคนเป็นอนาคตของชาติ มาเสียชีวิตไป จริงแล้วไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ แต่ทางเราต้องดำเนินการตามกฎหมายกำหนด ทางจำเลยปฏิเสธต่อสู้ว่าค่าเสียหายที่ทนายแก้ว เรียกไปสูงเกิน แต่จะสูงแค่ไหนเป็นดุลพินิจของศาล
ณ วันนี้รู้สึกเสียใจเพราะทางฝ่ายคู่กรณีไม่ได้ส่งใครมา หรือติดต่อมาแสดงความเสียใจหรือไว้อาลัยกับคุณพ่อเลยรู้สึกเศร้าใจนิดหนึ่ง ไม่มีจิตสำนึกเลย อยากถามผู้ก่อเหตุว่ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า รู้สึกเสียใจมาก
อย่างไรก็ตาม วันที่ 24 ก.พ.นี้จะนัดตรวจพยานหลักฐาน จำเลยและทนายต้องมาตามนัด ต้องดูกันว่าจะพูดอะไร ข้อหาที่ร้ายแรงในคดีนี้คือ ประมาททำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และมีอีกหลายข้อหา ขับรถความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หลังเกิดเหตุไม่ให้การช่วยเหลือและตรวจพบสารเสพติด 2 ตัว เป็นต้น ข้อหาท้ายฟ้องในส่วนคดีอาญาของพนักงานอัยการค่อนข้างละเอียด
เท่าที่จำได้ที่ผ่านมาฝ่ายคู่กรณีเขารับสารภาพใน 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาท และไม่มีใบขับขี่ ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิที่จะปฏิเสธได้ พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการค่อนข้างทำสำนวนละเอียดมากจึงไม่มีความกังวลในเรื่องคดี ไม่หนักใจอะไร
ทนายแก้ว กล่าวต่ออีกว่า แน่นอนตอนนี้เกิดความเสียหายไปแล้ว แต่ในความเป็นมนุษย์ควรมีจิตใจ จะส่งตัวแทนมาหรือใครมาแสดงถึงความจริงใจที่เหลืออยู่ แต่นี่มันไม่มี แค่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ในวันนี้แขกมาเยอะ เด็ก 2 คนที่เป็นเยาวชนและแม่ที่เสียชีวิต พ่อเขาต้องอยู่คนเดียว มันเปล่าเปลี่ยว