xs
xsm
sm
md
lg

ชาวมานิแนวเทือกเขาบรรทัด 4 จังหวัด กว่า 200 คน รวมตัวจัดกิจกรรมรวมญาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ชาวมานิ 200 คน จาก 4 จังหวัดที่อาศัยอยู่แนวเทือกเขาบรรทัด ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมญาติ เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน สร้างความยั่งยืนของชาติพันธุ์ในยุคการเปลี่ยนแปลงของสังคม

วันนี้ (20 ม.ค.) ที่หน่วยพิทักษ์ป่าโตนเต๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มีการจัดกิจกรรมรวมญาติมานิ (ซาไก) ตามโครงการสานสัมพันธ์สืบสานวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์มานิ ด้วยการริเริ่มการอนุรักษ์แบบมีส่วนร่วมอย่างครอบคลุม โดยมีชาวมานิ 200 คน จาก 11 ทับ/ชุมชน ใน 4 จังหวัดแนวเทือกเขาบรรทัด ประกอบด้วย ตรัง สตูล พัทลุง และสงขลา มาร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับวิถีชีวิต เช่น การแข่งขันเป่าลูกดอก การสาธิตจุดไฟเพื่อก่อไฟ ซึ่งยังเป็นสิ่งที่ชาวมานิใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน การนำใบเตยมาสานเป็นกระเป๋าเพื่อจำหน่าย ในขณะที่เด็กชาวมานิได้นำกิ่งไม้มาร่วมก่อไฟเพื่อหุงหาอาหาร ซึ่งสะท้อนความเรียบง่ายและความผูกพันกับธรรมชาติ โดยปัจจุบันมีประชากรชาวมานิทั้งหมด 415 คน

นายไข่ ศรีมะนัง หัวหน้ามานิกลุ่มวังสายทอง จ.สตูล บอกว่า กิจกรรมนี้เหมือนกับมาพบญาติกัน 1 ปี 1 หน แล้วเราสนุกสนานกัน ได้มาพบญาติแล้วรู้สึกมีความสุข ได้สนุกกัน เฉพาะในทับของตน ขณะนี้มีสมาชิก 30-50 คน โดยอยู่อาศัยในบ้าน หรือโฮมสเตย์ ใกล้กับจุดล่องแก่งวังสายทอง ในส่วนของอาหารนั้นเมื่อก่อนพวกตนจะออกไปหาของป่าบ้าง แต่เดี๋ยวนี้น้อยลงแล้ว และบางทีมีผู้บริจาคข้าวสารหรือเนื้อไก่ เพื่อให้พวกตนนำมาปรุงเป็นอาหารกินกันแบบพอเพียง เฉพาะตนเองตอนนี้มีอายุ 63 ปีแล้ว และได้เงินคนชราแล้วด้วย


ส่วน นายศักดิ์ดา แสนมี่ ประธานกรรมการมูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อการศึกษาและสิ่งแวดล้อม บอกว่า กิจกรรมนี้ถือเป็นการมีส่วนร่วมในการจัดการวิถีชีวิตของชาวมานิ รวมทั้งจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ เพื่อให้มีการอนุรักษ์แบบมีส่วนร่วมและครอบคลุมประเด็นต่างๆ เพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน หรือการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา รวมทั้งมีภาคีเข้ามาสนับสนุน โดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะเป็นหน่วยงานที่เป็นจิ๊กซอว์คอยต่อ และเป็นพี่เลี้ยงให้ชาวมานิ เพื่อให้เชื่อมโยงในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และดำรงวิถีชีวิตอยู่ในป่าได้อย่างยั่งยืนยาวนานในอนาคต

นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาร่วมเรียนรู้วิถี หรือตัวตัวตนของชาวมานิ ซึ่งกำลังปรับเปลี่ยนไปกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เช่น มีการออกมาอยู่บ้านแบบกึ่งถาวร หรือแบบถาวร มากไปกว่าการอาศัยอยู่ในทับหรือในป่า มีการออกมาประกอบอาชีพเพื่อหารายได้มายังชีพ มากไปกว่าการหาของป่า แต่วิถีบางอย่างสามารถนำมาปรับเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ เช่น เรื่องสมุนไพร เรื่องการถักเถาวัลย์ เป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวมานิ สามารถรักษาวัฒนธรรมและดำรงวิถีชีวิตของตนเอง ทั้งการอยู่อาศัยและการทำมาหากิน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ




กำลังโหลดความคิดเห็น