รวบแล้วอดีตผัวโหด!ใช้สากตีหัวเมีย พร้อมขู่เอาชีวิต ยอมรับผิดทำไปเพราะหึงหวง และขอความเป็นธรรมในบางเรื่องที่ถูกกล่าวหา

ชุมพร - รวบแล้วอดีตผัวสุดโหด ใช้สากตีหัวเมีย ขู่เอาชีวิตจนต้องหนีไปร้อง กันต์ จอมพลัง เจ้าตัวเผยยอมรับผิด ทำร้ายร่างกายอดีตเมียจริงเพราะหึงหวง และขอความเป็นธรรมในบางเรื่องที่ถูกกล่าวหา

จากเหตุการณ์ น.ส.สุจิตรา หญีตป้อม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/12 ม.5 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้ถูกนายธนกฤต ชัยพัฒน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/18 ซอยวัดโพธิ์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นอดีตสามี ที่อยู่กินกันมากว่า 2 ปี โดยมีลูกติดฝ่าย น.ส.สุจิตรา หญีตป้อม จำนวน 2 คน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกันมาเกิดมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนล่าสุดที่เกิดเหตุทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือจนเลือดตกยางออก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 67 ซึ่งครั้งนี้ทำให้ทั้งสองต้องแยกทางกัน และเป็นเรื่องไปราว เมื่อทางฝ่าย น.ส.สุจิตรา ถูกตีด้วยสาก และแก้ว ซ้ำโดนชกต่อยเตะสะบักสะบอม ในขณะ นางจันทร์เพ็ญ คงยก อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/12 หมู่ 5 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.สุจิตรา เข้าห้ามปรามก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วย และทั้งสองได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ไว้

ต่อมา เมื่อวันที่ 17 มกราคม 68 ที่ผ่านมา น.ส.สุจิตรา ได้อาศัยรถบรรทุกน้ำมันของคนใกล้บ้านขึ้นมากรุงเทพฯ มาพบกับ “กัน จอมพลัง” พร้อมนำคลิปเหตุการณ์ที่ทะเลาะตบตีกันเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 67 มาเป็นหลักฐาน เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือเนื่องจาก ถูกนายธนกฤต อดีตสามีข่มขู่จะทำร้ายทั้งตนและครอบครัว จนเป็นข่าวดังครึกโครม

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 17 มกราคม 2568 ทาง พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สืบสวน สภ.ปะทิว พร้อมกำลังหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปะทิว จ.ชุมพร จำนวน 4 คน นำหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ 16 มกราคม 68 ที่ จ.21/2568 เดินทางไปรับตัวนายธนกฤต ชัยพัฒน์ อดีตสามีของ น.ส.สุจิตรา ที่ศาลาของโกดังแห่งหนึ่ง พื้นที่ จ.สมุทรสาคร หลังได้ติดต่อขอมอบตัว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและลักทรัพย์


จนกระทั่งเวลา 21.30 น.ของวันเดียวกัน ทาง พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.(สืบสวน) สภ.ปะทิว ได้ควบคุมตัวนายธนกฤต มาถึง สภ.ปะทิว ซึ่งอยู่ในสภาพสวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืดคอกลมสีดำ โดยมีแมสก์และสวมหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า มาตลอดตั้งแต่ไปรับตัว ก่อนจะนำตัวเข้าห้องสืบสวน สภ.ปะทิว เพื่อจะสอบปากคำในเบื้องต้นนายธนกฤต ได้ขอเปิดใจต่อผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมว่า ตนยอมรับว่าทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาจริง แต่ในส่วนที่ทำร้ายลูกเลี้ยงนั้นตนขอปฏิเสธ และส่วนที่แม่อดีตภรรยาได้แจ้งความและให้ข่าวนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้าย แต่ขณะที่ตนเองทะเลาะกับอดีตภรรยา ถึงลงไม้ลงมือนั้นก็พลาดท่าไปถูกอดีตแม่ยายที่เข้ามาห้ามปรามแค่นั้น ไม่ได้จงใจที่จะทำร้ายโดยตรง

นายธนกฤต บอกว่า การที่ตนเองทะเลาะเบาะแว้งกับ น.ส.สุจิตราบ่อย มีประเด็นมาจากตนเองยอมรับว่าตกงานไม่มีงานทำ หาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว จนทำให้เกิดความระแวงและหึงหวงตัวอดีตภรรยา ซึ่งมักแต่งตัวสวยไปทำงานนอกบ้าน และหลังจากเกิดเหตุรุนแรงจนต้องหนีจากบ้านออกมานั้น ไม่ได้คิดว่าจะลักรถ จยย. แต่อย่างใดเพราะคิดว่าตนก็มีสิทธิในรถ จยย.เช่นกันเพราะตนเคยช่วยผ่อนรถอยู่หลายงวด และตนได้ส่งรถกลับคืนมาให้หลังจากที่เอาไปไม่กี่วัน

ส่วนในเรื่องของการโพสต์ข่มขู่นั้น ตนยอมรับว่าโพสต์อยู่แบบนั้นทุกครั้งที่ทะเลาะกันและไม่ได้คิดว่าจะลงมือทำจริง เพราะตนรักฝ่ายหญิง และไม่ได้อยากจะทำร้าย และที่ผ่านมายังติดต่อกันกับอดีตภรรยาตลอด และเมื่อวันที่ 4, 5, 6 ที่ผ่านมา ยังออกไปหาเจอกันด้วยที่ อ.ท่าแซะ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนจึงขอความเป็นธรรมในบางเรื่องที่ถูกกล่าวหาและยอมรับผิดที่ทำไปในเรื่องที่ตนกระทำจริงอย่างสำนึกผิด

ต่อมา ทาง พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สืบสวน สภ.ปะทิว ได้นำตัวเข้าไปภายในห้องเพื่อสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป