สุราษฎร์ธานี - ตร.ชุดสืบเมืองสุราษฎร์ฯเจ๋ง ตามรวบหนุ่มวัย 40 ตระเวนลักรถเครื่องที่เหยื่อเสียบกุญแจรถทิ้งไว้ ไปขายในราคา 8,000-10,000 บาท อ้างเป็นรถหลุดจำนำ ตำรวจตามยึดคืนได้ 6 คัน ในขณะที่เจ้าของสุดปลื้มที่รถยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี มีเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่หายไปในระหว่างปลายปี 67 และต้นเดือนมกราคม 2568 มายืนยันว่าเป็นรถของตนที่ถูกโจรลักไป โดย พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ที่นำโดย พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รอง ผกก.สส.ได้เข้าควบคุมตัว นายเอกรัตน์ ท่าชี อายุ 40 ปี บุคคลต้องสงสัยที่ออกอาละวาดโจรกรรมลักจักรยานยนต์ในช่วงปลายปี 2567 จนมาถึงเดือนมกราคม 2568 นี้ และเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะที่กำลังเดินเท้าหาเหยื่อที่เป็นรถจักรยานยนต์ที่ประชาชนเสียบกุญแจทิ้งไว้ที่ท่าปลาวาฬ ถนนริมแม่น้ำตาปี
เมื่อนำตัวมาสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงโดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาและช่วงเดือนมกราคมนี้ได้ก่อเหตุลักจักรยานยนต์ไปจำนวน 6 คัน โดยเลือกเหยื่อในลักษณะที่เจ้าของรถเสียบกุญแจทิ้งไว้ แล้วนำรถทั้งหมดไปซุกซ่อนในพื้นที่อำเภอบ้านนาสาร ที่เป็นบ้านเดิมของตนเอง และขายไปในราคา 8,000-10,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นรถหลุดจำนำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถคืนมาได้ทั้งหมด 6 คัน พร้อมติดต่อให้เจ้าของรถมารับคืน
ขณะที่ นายสิทธิพร วิเศษสุทธิ์ อายุ 22 ปี เจ้าของรถ 1 ใน 6 คันได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า รถของตนหายไปจากสะพานนริศที่จัดงานเคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยจอดรถแล้วลืมกุญแจทิ้งไว้ และกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานติดตามรถคืนมาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับกล่าวขอโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ภรรยาของตนได้โพสต์ข้อความตำหนิการทำงานของตำรวจว่าทำงานล่าช้าไม่ติดตามเรื่องให้
ด้าน พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รองผู้กำกับสืบสวน ได้บอกว่าเคสนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตาม มีการวางแผนเอารถเครื่องติด GPS ไปวางล่อโดยเสียบกุญแจทิ้งไว้กว่า 10 ครั้ง แต่ถูกพลเมืองดี หรือไม่ก็ยามในสถานที่ไปพบแล้วเอาไปให้ประชาสัมพันธ์ประกาศตามหา ทำให้ล้มเหลวไม่ได้ตัว แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่พบตัวนายเอก ที่มีลักษณะตรงตามการสืบสวนเดินหาเหยื่อ จึงคุมตัวมาสอบสวนและพบว่ามีประวัติถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์มาหลายครั้ง และล่าสุดออกมาได้ไม่นานก็มาก่อเหตุซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวได้ถามนายเอกรัตน์ ผู้ต้องหาว่าจะมีอะไรจะพูดหรือขอโทษเจ้าของทรัพย์ที่ตนไปลักมาหรือไม่ ซึ่งตัวผู้ต้องกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าไม่มีอะไรจะพูด แต่การทำงานค่อนข้างยาก สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากเมื่อวานได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อจนเป็นข่าวดัง
ทาง พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.ได้บอกกล่าวเตือนประชาชนว่า ทุกวันนี้คนร้ายมาในทุกรูปแบบจึงขอให้ระมัดระวังเรื่องการเสียบกุญแจรถทิ้งไว้ จะเปิดโอกาสให้กลุ่มมิจฉาชีพลงมือก่อเหตุได้