ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าท่าภูเก็ต สั่งกู้เรือคาตามารัน “เอมี่เรย์ 888” ภายใน 15 วัน พบจมในเส้นทางเดินเรือ เสี่ยงเกิดอันตรายกับเรือลำอื่น พร้อมกำชับเรือผู้โดยสารเรือทุกลำต้องสวมเสื้อชูชีพ
นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีเรือคาตามารัน “เอมี่เรย์ 888” ถูกคลื่นซัดใส่จนกระจกเรือแตก และอับปางระหว่าง นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ จากเกาะราชาใหญ่ ไปยังเกาะเฮ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ว่า หลังเกิดเหตุทางสำนักงานเจ้าท่าภูเก็ต ได้ออกประกาศชาวเรือให้ระมัดระวังการเดินเรือ หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินเรือ โดยเฉพาะบริเวณที่เรือจม เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้เจ้าของเรือกู้เรือภายใน 15 วัน เนื่องจากบริเวณที่มีเรืออับปางนั้นน้ำลึกประมาณ 40 เมตร ซึ่งลักษณะของเรือที่จมนั้นมีเสาด้วย โดยความสูงของเรืออยู่ที่ประมาณ 12-13 เมตร และความสูงของเสาเรือประมาณ 20 เมตร รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 เมตร ซึ่งเรือมีการจมในลักษณะตั้งตรงและเรืออาจจะลอยขึ้นมาได้จะเป็นอันตรายกับเรือที่สัญจรไปมา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินเรือท่องเที่ยวหลักด้วย
จึงได้แจ้งให้เจ้าของเรือดำเนินการติดตั้งทุ่นเครื่องหมายแสดงการเดินเรือทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้จะมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริงและสาเหตุของเรือจมตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายณชพงศ กล่าวถึงการเพิ่มมาตรการเรื่องความปลอดภัย ว่า หลังเกิดเหตุนายประเวศน์ สุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ได้เชิญผู้อำนวยการเจ้าท่าในฝั่งอันดามันและผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม และกำชับแนวทางในการให้บริการนำเที่ยวทางทะเลตามคำสั่งของอธิบดีกรมเจ้าท่า ให้เข้มงวดเรื่องการสวมใส่เสื้อชูชีพ โดยเฉพาะเรือโดยสารที่มีลักษณะเป็นดาดฟ้าเปิด เช่น เรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ต เป็นต้น
ซึ่งเรือลำที่เกิดเหตุจมนั้นก็เช่นกัน เพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งให้ทำแผนดำเนินการครอบคลุมกลุ่มพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ซึ่งของภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรือหางยาวบริเวณหาดราไวย์ ป่าตอง กะตะกะรน แหลมหิน แหลมพันวา และชายหาดอื่นๆ ที่จะต้องเข้ามาเข้มงวดการสวมเสื้อชูชีพมากขึ้น