ชุมพร - เจ้าของสวนปาล์มในชุมพรสุดจะทน! ซุ่มจับโจรลักตัดทะลายปาล์ม จนเจอตัวแต่ตะครุบไม่ทัน ทิ้งของกลางทั้งรถจักรยานยนต์ ตะขอเกี่ยว หนีเข้าป่าไป แจ้ง ตร.ตามจับต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ม.ค.) ร.ต.ท.ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุจาก นายสุนัย ชั่งสัจจา กำนันตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า ได้มีคนร้าย 2 คน เข้ามาลักตัดปาล์มน้ำมันของชาวบ้านพื้นที่ หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร และได้หลบหนีไป แต่ทิ้งรถ จยย.และอุปกรณ์เครื่องมือตัดปาล์มไว้ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 190 ไร่ อยู่ริมถนนสายเอเชีย 41 ช่วง กม.6 ขาล่องใต้ เจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ รุ่นสเปซี ไอ ทะเบียน 1 กม 1589 ชุมพร ล้มคว่ำอยู่ในพงหญ้าริมถนน ใกล้กับรถยนต์บรรทุกสไลด์ 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 70-2769 ชุมพร สภาพหันหัวย้อนศร ปิดขวางทางเข้าสวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว นอกจากนี้ ยังพบตะขอเคียวเกี่ยวผลปาล์มพร้อมด้ามยาว 3 เมตร ตกอยู่ และยังพบรถเข็น 2 ล้อ โครงเหล็กที่ใช้สำหรับบรรทุกทะลายปาล์มจอดอยู่หน้าประตูรั้วเหล็กซึ่งปิดอยู่
สอบถาม นายสิทธิพงศ์ พ่วงแม่กลอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 7 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ทราบว่า ตนได้รับการมอบหมายจากเจ้าของสวนปาล์มแห่งนี้ให้จัดการดูแลสวนปาล์มทุกอย่าง และเมื่อไม่นานมานี้พบว่าปาล์มน้ำมันในสวนมีคนร้ายเข้ามาขโมยตัดทะลายปาล์มไปจำนวนมาก และเริ่มเข้ามาขโมยติดต่อกันหลายครั้ง ลักตัดปาล์มทะลายไปแล้วเกือบ 1 ตัน จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชุมพร และในขณะเดียวกันตนตั้งใจว่าจะต้องจับหัวขโมยพวกนี้ให้ได้
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าตนได้เห็นคนร้าย 2 คน ขับรถ จยย.พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือตัดปาล์มขนทะลายปาล์มมาครบ จึงเฝ้าซุ่มดูอยู่บนรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ซึ่งจอดอยู่ห่างๆ จนกระทั่งทั้งสองเข้าไปในสวน โดยตนปล่อยให้คนร้ายตัดทะลายปาล์มไปก่อนเพื่อเป็นหลักฐาน จนทั้งสองได้มาเอารถเข็นไปขนทะลายปาล์ม ตนจึงได้ขับรถบรรทุก 6 ล้อ วิ่งย้อนศรไปเพื่อขวางทาง ทำให้รถจยย.ของคนร้ายพุ่งชนกับรถบรรทุกจนล้ม แล้วทั้งสองก็วิ่งหนีเข้าไปในสวนปาล์มทิ้ง รถ จยย.และอุปกรณ์เครื่องมือดังกล่าวไว้ และตนก็จำหน้าได้แม่นยำเพราะคนร้ายเป็นคนในละแวกใกล้กับสวน จึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพตรวจสอบและเก็บรอยนิ้วมือแฝงไว้เพื่อรวบรวมเป็นพยานหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป
