ตรัง - หนุ่มชาวเกาะลิบง จ.ตรัง เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังหลายชนิดขายมานานนับ 30 ปี โดยเฉพาะกุ้งมังกร 7 สี จนถือเป็นเกษตรกรเพียงรายเดียวในจังหวัดตรัง ซึ่งขายดีเพราะหวานมัน เนื้อแน่น นุ่มอร่อย
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่หน้าท่าเรือบ้านพร้าว หมู่ที่ 1 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง บังหยัด หรือนายประสิทธิ์ เบ็ญสะอาด อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังหลายชนิดขายมานานนับ 30 ปี ทั้งปลาช่อนทะเล ปลากะพง ปลากะพงแดง ปลาเก๋า ปลาไหลมอเรย์ หรือปลาหลดหิน ซึ่งปกติจะซ่อนตัวในน้ำลึก โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้งมังกร 7 สี หรือกุ้งล็อบสเตอร์ จนถือเป็นเกษตรกรเพียงรายเดียวในจังหวัดตรัง และล่าสุดปีนี้กำลังขุนกุ้งมังกรอายุปีกว่าๆ ประมาณ 50 ตัว เตรียมส่งขายให้ร้านอาหารในพื้นที่ รวมทั้งขายให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือน และแวะชมการเลี้ยงกุ้งมังกร ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่รสชาติหวานมัน เนื้อแน่น นุ่มอร่อย จนเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักชิม
บังหยัด หรือนายประสิทธิ์ เบ็ญสะอาด เล่าว่า พันธุ์ปลาทุกชนิด รวมทั้งพันธุ์กุ้งมังกร 7 สี และปลาไหลมอเรย์ ที่เลี้ยงในกระชัง ล้วนรับซื้อต่อมาจากชาวประมงในพื้นที่ที่ออกไปวางอวนวางลอบจับมาขาย เมื่อได้ไซส์ขนาดเล็กก็นำมาขายต่อให้ตนเพาะเลี้ยง สร้างรายได้อีกทางหนึ่งให้ชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งตลาดสัตว์น้ำในกระชังเหล่านี้ ส่วนใหญ่ขายในพื้นที่และกรุงเทพฯ โดยมีราคาดีทุกชนิด เช่น ปลากะพง กก.ละ 260-270 บาท ปลาเก๋า กก.ละ 250-260 บาท ส่วนกุ้งมังกรที่รับซื้อมาจากชาวประมงในพื้นที่ เพื่อนำมาเลี้ยงต่ออีก 1 ปีกว่าๆ จนได้น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 400-500 กรัม สามารถจับขายได้เดือนละ 5-10 ตัว ในราคาที่ กก.ละ 3,000 บาท
โดยร้านอาหารในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมกระชังจะรับซื้อกุ้งมังกร 7 สีหมด จนตอนนี้มีไม่พอขาย เนื่องจากกุ้งมังกรของเกาะลิบง มีรสชาติหวานมัน เนื้อแน่น นุ่มอร่อย และราคาไม่แพง จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว บางคนซื้อจากกระชังให้ร้านอาหารปรุงให้กินสดๆ โดยสามารถทำได้หลายเมนู เช่นเดียวกับเมนูกุ้งอื่นๆ อย่างไรก็ตาม จากปัญหาหญ้าทะเลในทะเลตรังที่เสื่อมโทรมอย่างหนักมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทำให้สัตว์น้ำทะเลทุกชนิด รวมทั้งกุ้งมังกรลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถจับลูกพันธุ์กุ้งมาขายให้เพาะเลี้ยงต่อได้น้อย
