ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักธุรกิจชาวคาซัคสถานร้องถูกเอเยนซีชาวยูเครนฉ้อโกง หลังชักชวนให้ทุนกันเปิดโครงการ ลายัน กรีน พาร์ค ที่ภูเก็ต กว่า 300 ล้าน เข้าพบผู้ว่าฯ ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมขอคำแนะนำแนวทางการลงทุน
จากกรณีที่นักธุรกิจชาวคาซัคสถานได้ร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียลในภูเก็ตถูกนักธุรกิจชาวต่างชาติชาวยูเครนฉ้อโกงหลังร่วมลงทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทำให้ต้องสูญเงินหลายร้อยล้านบาท และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีนักธุรกิจชาวยูเครนที่ สภ.เชิงทะเล ไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (7 ม.ค.) นายทาเคอร์ อทาบายีส นักธุรกิจชาวคาซัคสถาน ผู้เสียหาย พร้อมด้วยทีมทนายความ ได้เดินทางมาพบ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมหารือถึงแนวทางในการให้การช่วยเหลือนักธุรกิจรายดังกล่าว ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า นักลงทุนชาวคาซัคสถานรายนี้ ได้เข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ จ.ภูเก็ต โดยได้ร่วมลงทุนกับชาวต่างชาติและคนไทย แต่ต่อมาได้มีปัญหากันในเรื่องเงินทุนและหุ้นส่วน พร้อมทั้งได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เชิงทะเล แล้ว ในขณะเดียวกัน ทนายความผู้เสียหายได้ไปร้องศาลแล้วด้วย ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งในส่วนของทางจังหวัดภูเก็ตนั้นจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และในส่วนของสรรพากรและการจดทะเบียนนั้นจะได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า เชิงนโยบายนั้น ได้แจ้งกับนักลงทุนไปแล้วว่า การเข้ามาลงทุนในประเทศไทยหรือภูเก็ตนั้น อย่าเข้ามาลงทุนกันเอง อยากที่จะให้ติดต่อกับหน่วยงานราชการที่จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ซึ่งมี่กลไกที่จะคอยให้การช่วยเหลือนักลงทุนชาวต่างชาติ เพื่อไม่ให้เกิดการหลอกลวงและทำลายบรรยากาศการลงทุนในภูเก็ต
ด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ประเด็นที่ว่ามีการจ่ายเงินให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบที่มาที่ไปของข้อกล่าวอ้างดังกล่าวมามาจากไหนอย่างไร และเป็นไปตามการกล่าวอ้างหรือไม่ ส่วนการดำเนินคดีที่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ.เชิงทะเล ในข้อหายักยอกทรัพย์ และ พ.ร.บ.ห้างหุ้นส่วนนั้น ได้มีการสอบปากคำผู้ที่ถูกกล่าวหาไป 2 ปากแล้ว รวมไปถึงการสอบปากคำพยาน และขณะนี้ทางตำรวจกำลังรอเอกสารหลักฐานความเสียหายจากผู้เสียหาย และพฤติกรรมของผู้ต้องหาในการหลอกลวงและยักยอกทรัพย์ ซึ่งเมื่อทางตำรวจรวบรวบพยานหลักฐานได้เพียงพอจะเชิญตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำต่อไป
ขณะที่ นายทาเคอร์ อทาบายีส นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดังในประเทศคาซัคสถาน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตบ่อย และชื่นชอบภูเก็ต ซึ่งก่อนที่จะเกิดปัญหา ตนได้รู้จักกับเอเยนซีด้านอสังหาฯ ชาวยูเครนรายหนึ่งที่เข้ามาเสนอขายห้องพักคอนโดมิเนียมในพื้นที่ ต.เชิงทะเล พร้อมชักชวนให้ร่วมลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน โดยตน และเพื่อนอีก 2 คนร่วมลงทุนกับทางเอเยนซีชาวยูเครน และคนไทย ทำโครงการอพาร์ตเมนต์ชื่อ ลายัน กรีน พาร์ค ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล เป็นเงินรวมประมาณ 300 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2562 ในช่วงก่อนเกิดโควิดระบาด หลังจากนั้นโครงการในเฟสแรกได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และขณะนี้กำลังก่อสร้างเฟสที่ 2 ซึ่งมีโรงแรมด้วย
แต่ในช่วงตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน หุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนด้วยไม่เคยแสดงงบรายรับ รายจ่ายให้ตนได้รับทราบ และไม่เคยมีการบอกกล่าวว่าเงินไปไหน ใช้เงินไปทำอะไรบ้าง ตนไม่เคยได้รับเงินส่วนแบ่งจากการลงทุน รวมทั้งไม่เคยมีการประชุมผู้ถือหุ้นเลย ตนจึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับหุ้นส่วนในฐานะกรรมการบริษัท คนที่เข้ามาชักชวนให้ร่วมลงทุน นอกจากนั้น ยังได้มอบหมายให้ทางทนายความดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอีกทางหนี่งด้วย เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง และไม่ไปทำผิดกับคนอื่นอีก
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนได้แจ้งปัญหานี้ไปยังสถานทูตแล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของทางสถานทูต และการเข้าพบกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งผู้บังคับการตำรวจภุธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ เพื่อนำเรียนปัญหาและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้คำแนะนำในการเข้ามาลงทุน ส่วนเรื่องของการแจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแล้ว
นอกจากนั้น ทางจังหวัดยังให้คำแนะนำในเรื่องของการเข้ามาลงทุนว่าจะต้องติดต่อผ่านหน่วยงานไหนบ้าง และจะต้องติดต่อผ่านใคร ส่วนการตัดสินใจในการลงทุนครั้งนี้เพราะให้ความไว้วางใจในตัวหุ้นส่วน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้จึงรู้สึกไม่สบายใจ
