xs
xsm
sm
md
lg

“ขนมเข่งเจ๊หลาน” จากรุ่นสู่รุ่นยาวนานกว่า 55 ปี ยอดสั่งพุ่งรับเทศกาลตรุษจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - “ขนมเข่งเจ๊หลาน” ขนมเข่งสูตรโบราณเมืองเบตง ที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นยาวนานกว่า 55 ปี มียอดออเดอร์สั่งเข้ามากว่า 4,000 กก. เพื่อเตรียมใช้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน

วันนี้ (6 ม.ค.) ช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นช่วงเทศกาลที่หลายคนเริ่มเตรียมตัวเตรียมเงินซื้อของเตรียมไหว้ตรุษจีนกันแล้ว โดยเฉพาะขนมเข่งซึ่งเป็นขนมไหว้เจ้าในเทศกาลสำคัญที่อยู่คู่กับพี่น้องชาวจีนมาช้านาน แม่ค้าที่ทำขนมเข่งขายในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ต่างเร่งทำขนมเข่งเพื่อส่งให้ทันออเดอร์

โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 27 ถนนวีระพันธ์ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นางสุนันท์ จ้องศิรินุรักษ์ อายุ 75 ปี เจ้าของร้าน เจ๊หลานขนมเข่งสูตรโบราณ พร้อมด้วยลูกหลานและบรรดาลูกน้อง ต่างเร่งผลิตขนมเข่งสูตรโบราณที่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 55 ปี ตั้งแต่รุ่นคุณยาย รุ่นคุณแม่ ด้วยการโม่แป้งจากข้าวเหนียวโดยเฉพาะข้าวเหนียวดำที่สั่งมาจากจังหวัดอุบลราชธานีและอุดรธานี และต้องเป็นข้าวเหนียวที่เก็บใหม่เพราะจะมีกลิ่นหอม และเป็นเจ้าแรกของอำเภอเบตงที่ทำขนมเข่งจากข้าวเหนียวดำที่สั่งมาจากภาคอีสาน โดยเริ่มจากที่ทำกินเองในครอบครัวในช่วงวันตรุษจีน และทำให้ชาวบ้านเห็นและได้ชิมจนชาวบ้านในเบตงต่างบอกว่าให้ทำมาส่งขาย จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำขนมเข่งข้าวเหนียวดำ


โดยนำข้าวเหนียวที่ผสมกับน้ำตาลแล้วนำใส่ในกระป๋องที่ห่อใบตองไว้ ก่อนนำไปนึ่งด้วยกระทะใบบัว ซึ่งต้องใช้เวลานานร่วม 18 ชั่วโมงและต้องใช้ไฟกลาง ไม่แรงและไม่อ่อนจนเกินไป เพราะจะทำให้มีรสชาติที่หอมหวาน โดยแป้งจะโม่เอง ทำมือเองทั้งหมดทุกขั้นตอน ขนมเข่งที่ผลิตขายเป็นขนมแข่งแบบพื้นเมืองเบตง สูตรโบราณ ที่จะมีจุดเด่น คือ มีลักษณะเป็นเข่งใหญ่เท่ากระป๋องนม เนื้อแน่น ไม่มีไส้ มีเพียงแป้งข้าวเหนียวและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ

ที่ร้านเจ๊หลาน จำหน่ายขนมเข่ง 2 ชนิดแบบข้าวเหนียวขาว กก.ละ 160 บาท และข้าวเหนียวดำ กก.ละ 185 บาท ถึงแม้ราคาวัตถุดิบจะปรับราคาขึ้นไปก็ตามแต่ยังคงขายในราคาเดิม เพื่อให้คนได้กินของอร่อยในวันตรุษจีน โดยปีนี้มียอดออเดอร์สั่งมาจากมาเลเซียและคนในพื้นที่กว่า 4,000 กก.

โดยวันตรุษจีนในปี 2568 ตรงกับวันพุธที่ 29 มกราคม 2568 และต่อเนื่องไปอีกรวม 3 วัน และมีวันความสำคัญที่แตกต่างกัน คือ “วันจ่าย” จะตรงกับวันที่ 27 มกราคม 2568 นับเป็นวันสิ้นปี เป็นวันที่จะต้องออกไปจับจ่ายซื้อของ อาหาร ผลไม้ หรือของสำหรับเตรียมเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และสำหรับทำอาหารกินในครอบครัว ถือเป็นการเตรียมตัวเข้าสู่ปีใหม่


“วันไหว้” ตรงกับวันที่ 28 มกราคม 2568 คือ วันที่ญาติจะต้องมารวมตัวกันเพื่อเริ่มทำพิธีไหว้บรรพบุรุษในช่วงกลางวัน ส่วนในช่วงกลางคืนจะเป็นการไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ เพื่อเสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ให้ตนเองและครอบครัว และสุดท้าย “วันเที่ยว” ตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 คือ วันที่คนในครอบครัวจะพากันออกไปขอพรจากญาติผู้ใหญ่หรือออกไปท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะแต่งกายด้วยสีสันสดใส เสื้อผ้าใหม่ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีการมอบอั่งเปา และแต๊ะเอียในวันนี้อีกด้วย

ซึ่งวันตรุษจีนถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน นอกจากจะได้เฉลิมฉลองร่วมกันกับคนในครอบครัวแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่จะได้ไหว้บรรพบุรุษ เทพเจ้า รวมถึงขอพรผู้ใหญ่เพื่อเสริมสิริมงคลก่อนเริ่มต้นปีใหม่อีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น