xs
xsm
sm
md
lg

สาวโพสต์คลิปถูกสามีซ้อม เปิดใจต้องตัดขาด ด้านอดีตสามียอมรับชอบใช้ความรุนแรง เผยปมชอบด่าแม่ด้วยคำรุนแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - สาวโพสต์คลิปถูกสามีซ้อมทั้งหมัดทั้งเท้าน่วมทั้งตัว เปิดใจต้องตัดขาด หลังแต่งงานอยู่กินกันมา 3 ปี พอมีลูกด้วยกัน ชอบใช้ความรุนแรง และมีมือที่สาม แจ้งความดำเนินคดีทั้งอดีตสามีทำร้ายร่างกาย และแม่สามีฐานข่มขู่จะฆ่า ขณะที่เจ้าตัวยอมรับผิดใช้ความรุนแรง พร้อมพบตำรวจหากมีหมายเรียก ยืนยันไม่มีหญิงอื่นเกี่ยวข้อง ปมเหตุมาจากอดีตภรรยาชอบด่าแม่ตนเองด้วยคำรุนแรง

จากกรณีมีผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก เป็นคลิปถูกสามีวัยรุ่นใช้ความรุนแรงทั้งแตะทั้งต่อย ต่อว่าต่าง ๆ นาๆ นานหลายนาที จนร่างกายเขียวช้ำไปทั้งตัว พร้อมกับระบุข้อความว่า “มันเป็นโพสต์สุดท้ายของเรื่องราวในชีวิตคู่ที่ฉันได้เลือกผิดพลาดไป มีเรื่องให้เตือนให้สอนลูกเยอะแยะเลย ว่าหนูควรคิดและไตร่ตรองในการเลือกคู่ชีวิตให้มาก ๆ แม่พลาดไปแล้ว หนูอย่าพลาด อย่าได้รีบร้อนในการเลือกคู่ชีวิตเหมือนแม่อีกนะ ” โดยโพสตดังกล่าวได้รับความสนใจมีการแชร์ต่อ ๆ และมีคอมเมนท์ข้อความจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีเพจดัง นักช่วยเหลือทางสังคม ออกมาแสดงตัวให้ความช่วยเหลือกันจำนวนมาก จนกลายเป็นคลิปไวรัสแค่ชั่วข้ามคืน

กรณีดังกล่าว วันนี้ ( 31 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในหมู่ที่ 1 ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเปิดเป็นที่ทำการบริษัทสัมปทานเดินรถโดยสารระหว่างอำเภอในพื้นที่จังหวัดชุมพร เป็นบ้านของบิดาและมารดาหญิงสาวที่โพสต์คลิปถูกอดีตสามีซ้อม และพบกับ นางสาวภัครดา เพชรอาวุธ อายุ 27 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์คลิปดังกล่าว เพื่อสอบถามปัญหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามคลิป

ขณะเดียวกันได้มี นายอรรถชัย ภัคดีอักษร นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเป็นหนึ่ง ลงพื้นที่ไปพบและให้ความช่วยเหลือกับนางสาวภัครดาด้วย

นางสาวภัครดา กล่าววว่า ตนได้แต่งงานและจดทะเบียนกับสามีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 โดยไปปลูกสร้างบ้านอยู่ในที่ดินของสามี ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลตากแดด อ.เมืองชุมพร แรกๆก็รักกันดี พอมาระยะหลังจากที่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 2 ขวบ เริ่มมีปัญหาครอบครัว สามีเริ่มใช้ความรุนแรงเรื่อยมา และตนเก็รู้ว่าสามีเริ่มมีการพูดคุยคบหากับหญิงคนใหม่ด้วย

หลังจากพฤติกรรมสามีเปลี่ยนไป ชอบใช้ความรุนแรง ตนเคยนำใบรับรองแพทย์ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้รับปลอดภัยในชีวิตและร่างกาย แต่พฤติกรรมสามีก็ยังเหมือนเดิม ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 เราได้ตัดสินใจจดทะเบียนหย่ากันที่อำเภอเมืองชุมพร โดยระบุเงื่อนไขว่า บุตรสาวอายุ 1 ปี 9 เดือน ทั้งสองจะปกครองร่วมกัน สำหรับบุตรให้อยู่กับฝ่ายภรรยา

แม้เราจะหย่ากันแต่เราทั้งสองก็ยังไปมาหาสู่กันปกติเพื่อลูกสาว ส่วนกรณีที่มีข้อความว่าแม่สามีจะขอซื้อลูกสาวจำนวนเงิน 1 แสนบาท เพื่อไปเลี้ยงดูเองนั้น ก็เป็นเรื่องจริง แต่ตนไม่เอา จะขอเลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง และที่ผ่านมาแม่เขาก็จะมาต่อว่าตนหลายครั้ง ตนก็อาจจะมีเถียงไปบ้างด้วยเหตุด้วยผลแบบปกติทั่วไป


นางสาวภัครดา กล่าวว่า ส่วนวันเกิดเหตุตามในคลิป เป็นวันที่ 23 ธ.ค.67 เป็นบ้านที่สร้างอยู่ด้วยกันในที่ดินของอดีตสามี ในพื้นหมู่ที่ 7 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ตนได้พาลูกสาวไปหาอดีตสามีที่บ้านและอยากให้ลูกสาวอยู่นอนกับพ่อที่บ้านหลังนั้นด้วย เพราะที่ผ่านมาแม้เราจะหย่ากันแต่เราก็ยังพูดคุยอยู่เพื่อลูกกันตามปกติ แต่หลังจากพูดคุยกันได้ไม่นานขณะตนกำลังปัดกวาดบ้าน อดีตสามีตนเริ่มมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ทำให้ตนรู้ว่าต้องเกิดอะไรขึ้นอีกกับตนอีก จึงตั้งมือถือถ่ายคลิปไว้ โดยอดีตสามีบอกว่าถ้าอยากจะมาอยู่บ้านหลังนี้อีก ตนจะต้องไปกราบขอขมาแม่เขาก่อนอยู่ที่ จ.ภูเก็ต และต่อไปะจะต้องฟังอย่างเดียว ห้ามโตเถียงแม่ และชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ห้ามคิดอะไร ให้อยู่เฉยๆ เขาก็พยายามพูดโน่นนี่นั่นหลายเรื่อง ทำให้ตนก็โต้เถียงไปบ้าง ไม่นานก็ปรากฏให้เห็นตามคลิปดังกล่าว นับจากนี้ตนก็จะไม่ขอกลับไปอีกแล้วพอกันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันเกิดเหตุอดีตสามีเมาสุราหรือไม่ นางสาวภัครดากล่าวว่าไม่ได้ดื่ม แต่เขาเป็นคนมีอารมณ์รุนแรงแบบนั้นเอง แต่ในบางมุมเขาก็ดี ส่วนยาเสพติดที่เคยเห็นก็เสพกัญชาบ้างเท่านั้น แต่ปกติเขาชอบอยู่แต่ในห้องตามลำพังคนเดียว จึงไม่ค่อยรู้อะไรมาก

นางสาวภัครดากล่าวว่า หลังจากตนโพสต์คลิปลงเฟซบุ๊กเมื่อวานได้มีคนจำนวนมากทักมาช่วยเหลือตน ทั้งเพจสายไหมต้องรอด ต้นอ้อเป็นหนึ่ง กันต์จอมพลัง ก็ประสานเรื่องการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเมื่อวานตอนเย็นตนก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เรียบร้อยแล้ว โดยแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามีในข้อหาทำร้ายร่างกาย และแจ้งความดำเนินคดีกับแม่อดีตสามี ในข้อหาขู่ฆ่า ตามหลักฐานข้อความที่ส่งมาถึงตน


ด้าน นางขวัญตา เพชรอาวุธ อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ และนางสาวปวีณา เพชรอาวุธ อายุ 34 ปี พี่สาว กล่าวว่า ทั้งคู่แต่งานกันมาประมาณ 3 ปี เห็นทั้งคู่ก็รักกันดี ลูกสาวไม่เคยเล่าปัญหาในครอบครัวให้เราได้รู้เลย แม้จะถูกทำร้ายมาแล้วกี่ครั้งก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง รู้เพียงว่ามีปากเสียงทะเลาะกันบ้างตามประสาผัวเมีย แม้จะหย่ากันลูกสาวก็ยังพาหลานไปหาสามีที่บ้านอยู่เป็นประจำ และเราเพิ่งจะมารู้ตอนมีคลิปเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์นี้แหละ โดยแม่ดูได้เพียงนิดเดียวไม่วามารถดูต่อไปได้อีก เพราะทำกับลูกแม่รุนแรงเหลือเกิน

นายอรรถชัย ภัคดีอักษร นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังปรากฏคลิปตามสื่อต่าง ๆ ก็ได้มีการประสานงานร่วมกับตำรวจ และบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร เพื่อช่วยเหลือทางคดีความแก่น้องเขาเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว ทั้งเรื่องของปัญหาสภาพจิตใจ สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ และปัญหาอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะลูกที่ยังเล็ก หลังจากนี้ก็จะช่วยเหลือดูแลเรื่องการดำเนินคดี การคุ้มครองเรื่องสวัสดิภาพหากมีการข่มขู่คุกคาม

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ นายธนกานต์ แตงเลี่ยน อายุ อายุ 24 ปี อดีตสามีที่ก่อเหตุใช้ความรุนแรงตามในคลิป โดยนายธนกาตน์ บอกว่า เราได้หย่ากันแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา และตนเองก็ไม่ได้ยินยอมให้เขากลับมา เพราะตนเคยบอกไว้แล้วว่าถ้าจะกลับมาต้องไปเคลียร์กับแม่ตนก่อน เพราะเมื่อก่อนนี้เขาเคยด่าแม่ผมทะเลาะกับแม่ผมหลายครั้ง แล้วเราก็หย่ากันแล้ว แต่อยู่ ๆเขาก็ทำมาตีมึนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วกับมาอยู่ในบ้านตนแบบนี้ เมื่อถามว่าทำไมถึงใช้ความรุนแรงอย่างนั้น นายธนกานต์บอกว่า ตนยอมรับผิดที่ใช้ความรุนแรงกับเขาแบบนั้น แต่ตนไม่อยากให้เขามาอยู่อีกแล้ว เพราะเขาไม่ยอมไปขอขมาแม่ตน ทะเลาะกันด่ากันแรงมากใช้คำว่ามึงกูกับแม่ตน กับยายตนแบบนี้ ตอนนี้ตนไม่คิดอะไรอีกแล้ว รอแค่หมายเรียกจากตำรวจ ตามที่ถูกแจ้งความ และยืนยันว่าตนไม่เคยมีคนใหม่เหมือนกับที่เขากล่าวหา เราแค่พูดคุยเรื่องปัญหาชีวิตให้เขาฟังเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น