กระบี่ - ตร.กระบี่ จับยาบ้าล็อตใหญ่ได้ 180,000 เม็ด ผู้ต้องหา 2 ราย ที่เพิ่งพ้นคุกในข้อหายาเสพติดได้แค่ 4 เดือน สารภาพรับจ้างกระจายยาให้นายใหญ่ที่อยู่เชียงรายและพม่า
วันนี้ (20 ธ.ค.) พ.ต.อ.ชาณุชาญ ชลสุวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พฤทธฺพงศ์ พรหมเต็ม ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนายสวาท หึงษาชู นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ได้จำนวน 2 คน ยึดยาบ้าได้รวม 180,000 เม็ด
ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานมาจากชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ว่า มีการขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่เชียงรายมายังพื้นที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ แยกออกเป็น 2 ล็อต เพื่อส่งมอบให้พ่อค้ารายสำคัญ และเป็นรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่
ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.อาวุธ ขำแผลง สารวัตรสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ สนธิกำลังร่วมกับพ.ต.ต.บดินทร์ จูห้อง สารวัตรสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ นายสวาท หึงษาชู นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการสำนักงานป้องกันและปราบกรามยาเสพติดภาค 8 ร่วมกันวางแผนจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดกระบี่ จนสามารถจับกุมตัวนายวัชรินทร์ หรือเอ็ม ภูลายขาว อายุ 34 ปี นายธนาวุฒิ หรือแอม หงส์ทอง อายุ 34 ปี ซึ่งบุคคลทั้ง 2 เพิ่งพ้นโทษมาได้ 4 เดือนในข้อหาค้ายาเสพติด
โดยกำลังเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้าได้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จำนวน 90,000 เม็ด และวันที่ 20 ธันวาคม 2567 จำนวน 90,000 เม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนชนิดเดียวกัน จำนวน 12 นัด รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง โดยจับกุมได้หน้าโรงพยาบาลอำเภออ่าวลึก และโกดังกระจายสินค้าบริษัทขนส่ง หมู่ที่ 7 บ้านเขาหลัก ตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้งสอง ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า ทำให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับนายวัชรินทร์ มีข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติกรรม
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน สารภาพว่าหลังพ้นโทษออกมาไม่มีงานทำจึงหันไปค้ายาเสพติดอีกครั้ง โดยมีนายหัวใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและประเทศพม่า โดยเข้าๆ ออกๆ ทั้งสองพื้นที่ และส่งยาบ้ามาครั้งละ 90,000 เม็ด ทางบริษัทขนส่งเอกชน ได้ลักลอบค้ายาเสพติดมานานกว่า 4 เดือน ได้ค่าจ้าง 20,000 บาท ในการรับและกระจายยาบ้าในพื้นที่ 2 จังหวัดคือ จังหวัดกระบี่และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจำหน่ายเอง 3 เม็ด 100 บาท ส่งขายถุงละ 2,500 บาท มัดละ 2,000 เม็ด 28,000 บาท จนกระทั่งถูกจับกุมตัวในที่สุด