สุราษฎร์ธานี - สตม. บูรณาการ ตร.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ทลายแก๊งฝรั่งค้ายาเสพติดข้ามชาติ เหิมค้ายาเสพติดให้นักท่องเที่ยวบนเกาะพะงัน ตั้งคนไทยเป็นนอมินี เปิดบริษัทบังหน้าฟอกเงิน พบทำมาแล้วเกือบ 2 ปี เงินหมุนเวียนกว่า 71 ล้านบาท เตรียมเพิกถอนวีซ่าผลักดันออก พร้อมลงแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศแบบถาวร
วันนี้ (19 ธ.ค.) พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 นายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน พ.ต.อ.กฤดินิธิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ปัญญา นิรัตติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน, พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมจับกุม นายเฟเดริโก้ หรือ MR.FEDERICO CARLO EUGENIO PISTOLESI อายุ 36 ปี สัญชาติอิตาลี ในความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี เอ็กตาซี) และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยไม่ได้รับอนุญาต สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน (มูลฐานยาเสพติด) และฟอกเงิน” และข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี เมตแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
พร้อมของกลางอื่นๆ จำนวน 24 รายการ พร้อมอายัดบัญชีธนาคาร 1 บัญชี ยอดเงิน 6.6 ล้านบาท ที่ดินในนามบริษัท พิทยาแลนด์ จำกัด เนื้อที่ 2 ไร่เศษ จำนวน 1 แปลง มูลค่า 8 ล้านบาท ยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า จำนวน 1 คัน และอยู่ระหว่างตรวจสอบที่ดินอีก 2 แปลง ซึ่งน่าจะถือครองในชื่อของบุคคลอื่น รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่นายเฟเดริโก้ เป็นกรรมการว่าเข้าข่ายมีการประกอบในลักษณะนอมินีหรือไม่
นอกจากนี้ ยังสามารถขยายผลจับกุมนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่พบว่ามาซื้อยาเสพติดจากนายเฟเดริโก้ ได้อีก 2 ราย คือ นายโรมัน (MR.ROMAN MALIK BERTAGNOL) อายุ 37 ปี สัญชาติฝรั่งเศส และนายแอนทอน (MR.ANTON ZAOZEROV) อายุ 39 ปี สัญชาติรัสเซีย สำหรับยาเสพติดที่ตรวจพบ เช่น โคเคน เห็ดขี้ควาย ซึ่งเป็นยาเสพติดที่แพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ทำการจับกุม นายปีเตอร์ ฮูล หรือ MR.PETER HULL สัญชาติอังกฤษ ข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง และศาลจังหวัดเกาะสมุย ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี 11 เดือน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผลพบว่านายปีเตอร์ ฮูล สั่งซื้อยาเสพติดมาจากนายเฟเดริโก้ โดยมียอดการสั่งซื้อมากกว่า 200,000 บาท ในระยะเวลากว่าปีเศษ และในห้วงเวลาเดียวกันพบว่านายเฟเดริโก้ ได้รับโอนเงินจากชาวต่างชาติรายอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกาะสมุย และ เกาะพะงัน อีกหลายราย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินที่ได้มาจากการซื้อขายยาเสพติดในเครือข่ายเดียวกัน โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 71 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.กฤดินิธิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับนายเฟเดริโก้ และเข้าตรวจค้นเครือข่ายอีก 3 จุด จนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 รายตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
ขณะที่ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 กล่าวด้วยว่า นายแอนทอน ได้มีการจัดตั้งบริษัท เพียว เฮ้าส์ พะงัน จำกัด ขึ้นมาประกอบธุรกิจให้บริการรับทำความสะอาดวิลล่าที่พักอาศัย สวน และสระน้ำให้ชาวต่างชาติ โดยมีลักษณะให้คนไทยเข้ามาถือหุ้นแทนหรือนอมินี เพื่อบังหน้าปกปิดการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
โดยบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 4,000,000 บาท มีลักษณะการถือหุ้นที่ผิดปกติโดยมีคนไทยถือหุ้นในสัดส่วน 100% มีนายแอนทอน และภรรยาชาวรัสเซีย เป็นกรรมการ พบว่ามี น.ส.มีนา บุคคลสัญชาติไทย เป็นผู้ถือหุ้นแทนนายแอนทอน เพื่อให้ได้ประกอบธุรกิจในราชอาณาจักรตามเงื่อนไขของการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ซึ่งเงินที่ใช้ในการลงทุนทั้งหมดเป็นของนายแอนทอน เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.มีนา ในข้อหาให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจให้บริการรับทำความสะอาดวิลล่าที่พักอาศัย บ้านพักตากอากาศ ดูแลสวน และสระว่ายน้ำอันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 บัญชี 3 (21)
การทำธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ไม่ได้กำหนดไว้ในกฎกระทรวง เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย และนายแอนทอน ในข้อหายินยอมให้คนไทยช่วยเหลือให้ตนเองได้ประกอบธุรกิจบริการรับทำความสะอาดวิลล่าที่พักอาศัย บ้านพักตากอากาศ ดูแลสวน และสระน้ำ อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ท้ายบัญชี 3 (21) การทำธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ไม่ได้กำหนดไว้ในกฎกระทรวง และประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 8 และมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ในส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่ามีการถือหุ้นแทนคนต่างชาติ
ผบช.สตม.กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งกวาดล้างบริษัทนอมินีที่ใช้คนไทยถือหุ้นบังหน้า รวมทั้งกวาดล้างอาชญากรรมที่กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักของ น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร นายกรัฐมนตรี และต่อจากนี้ไปจะให้ ตม.ทุกจังหวัด ประสานการปฏิบัติกับตำรวจพื้นที่เร่งตรวจสอบพฤติกรรมชาวต่างชาติ และบริษัทที่ประกอบธุรกิจในลักษณะที่เป็นมอมินี หากตรวจพบจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทุกราย
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ตม.เกาะสมุยยังได้จับกุม นายเฮอเคส พูเรฟซูเรน หรือMR.PUREVSUREN ERKHES อายุ 33 ปี สัญชาติมองโกเลีย ผู้ต้องหาในคดีเปิดแอปพลิเคชันให้มีการเล่นพนันออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย ตามประกาศตำรวจสากลสีแดงหรือหมายแดง(RED NOTICE) เลขที่ A-13287/11-2024 การจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากตำรวจสากลประเทศสาธารณรัฐประชาชนมองโกเลีย ได้ออกหมายจับ ที่ 2024/3/265 ลง 1 พ.ย.2567 ให้ตำรวจสากลได้ออกหมายสีแดง หรือ RED NOTICE โดยได้ประสานมายังทางการไทยผ่านกองการต่างประเทศและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้ติดตามตัว
นายเฮอเคส พูเรฟซูเรน หรือ MR.PUREVSUREN ERKHES อายุ 33 ปี สัญชาติมองโกเลีย ซึ่งเป็นบุคคลต้องการตัวตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) เลขที่ A-13287/11-2024 ในคดีเปิดแอปพลิเคชันให้มีการเล่นพนันออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย มาดำเนินการผลักดันออกนอกราชอาณาจักรไปดำเนินคดีที่ประเทศมองโกเลีย
ผบช.สตม.และ ผบก.ตม.6 ได้สั่งการให้ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ใช้เทคโนโลยีและระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สืบค้นและสืบสวนจนทราบว่านายเฮอเคส พูเรฟซูเรน หรือ MR.PUREVSUREN ERKHES ได้หลบซ่อนอยู่ที่พักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นจึงได้เสนออนุมัติเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2567 ได้สืบหาตัวจนพบตัวนายเฮอเคส พูเรฟซูเรน หรือ MR.PUREVSUREN ERKHES และนำคำสั่งเพิกถอนแจ้งให้ทราบ