ชุมพร - ระดมกำลังเร่งค้นหา 2 พ่อลูกที่ถูกกระแสน้ำซัดเรือชนตอม่อพลิกคว่ำ จมน้ำหาย แต่ยังไร้วี่แวว ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ถนนสายหลัก รถไฟเปิดใช้เส้นทางได้แล้ว แต่ยังมีหลายหมู่บ้านในที่ลุ่มและจุดเสี่ยงน้ำยังท่วมขังสูง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (16 ธ.ค.) นายธีรวุฒิ นงนุช ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอเมืองชุมพร พร้อมตำรวจตระเวนชายแดน อส.จังหวัดชุมพร กู้ชีพกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ และชาวบ้านกว่า 50 คน นำเรือหางยาว เรือท้องแบน และเรือเจ็ตสกี ระดมออกค้นหา นายชยุต พุ่มไม้ อายุ 30 ปี และ ด.ช.กษิด์เดช เติม อายุ 10 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/4 หมู่ 6 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร สองพ่อลูก นั่งเรือไฟเบอร์ขนของหนีน้ำท่วม แล้วเรือถูกกระแสน้ำซัดจมหายไปในคลองนาคราช ซึ่งเป็นคลองขุดเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนสายเอเชีย 41 เหตุเกิดเมื่อตอนเย็นของวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมี นายวิทยา เขียวรอด ปลัดจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายนวรัตน์ วงศ์ปิ่นเพ็ชร์ นายอำเภอเมืองชุมพร ลงติดตามการค้นหาอย่างใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังโดยใช้เรือวิ่งเป็นแนวขวางพร้อมทั้งใช้ไม้ปลายตะขอลากไปตลอดลำคลองจากจุดเกิดเหตุไปจนถึงปากร่องน้ำทุ่งคา ซึ่งมีความยาวประมาณ 10 กม. โดยใช้เวลากว่า 5 ชม.แต่ยังไร้วี่แวว จึงได้หยุดพักเป็นการชั่วคราว ก่อนจะปรับเปลี่ยนแผนใหม่ โดยจะแบ่งชุดกำลังออกเป็น 4 ชุด ชุดแรกนำเรือล่องจากจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ชุดสองนำเรือที่ปากร่องคลองตั้งแต่ทะเลล่องเข้ามา และชุดสามได้นำเรือพายขนาดเล็ก พายลัดเลาะไปตามแนวคลองซอยต่างๆ โดยแนวทางการค้นหาใหม่ และชุดที่ 4 เดินเท้าตามแนวคลองด้านใน
นายประสิทธิ์ ศิริสังข์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร เป็นคนหนึ่งที่ร่วมออกช่วยค้นหา เปิดเผยว่า ก่อเกิดเหตุนั้น ตนพร้อม นายสุชิน วันพิคต อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายชยุต พุ่มไม้ และเป็นปู่ของ ด.ช.กษิด์เดช ผู้สูญหาย ได้มาช่วยชาวบ้านขนข้าวของและช่วยแจกข้าวกล่องข้าวหน้าป้อมตำรวจสายตรวจบ้านตากแดด ไม่นานทั้ง 3 สามคนได้ขอตัวไปเอาเรือไฟเบอร์ ขนาดความยาว 6 เมตร กว้าง 2.50 เมตร ของตนที่จอดอยู่ในคลองนาคราช หน้าประตูน้ำระบายน้ำ เพื่อจะไปช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกจากภายในบ้าน และตนมารู้ภายหลังว่าเรือถูกกระแสน้ำพัดจมกลางคลอง คนในเรือจมหายไป 2 คนเป็นพ่อลูกกัน ส่วนคนเป็นปู่ถูกน้ำซัดพาไปไกลหลายกิโลเมตรลอยเข้าฝั่งรอดมาได้ และมาขอความช่วยเหลือซึ่งเวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว
ด้านนายสุชิน วันพิคต ผู้เป็นปู่ที่รอดชีวิต กล่าวว่า วันนั้นหลังจากที่ช่วยเหลือคนอื่นขนของหนีน้ำแล้ว ตนพร้อมลูกชายและหลานได้ปลีกตัวเพื่อจะไปเอาเรือพายไปที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากประตูระบายน้ำประมาณ 2 กม. แต่ระหว่างที่พายเรือออกมาได้เพียงไม่ถึง 30 เมตร เรือถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวซัดไปชนกระแทกกับตอม่อสะพานข้ามคลอง ทำให้นายชยุต ลูกชายตน และ ด.ช.กษิด์เดช หลานชาย จมหายไปกับกระแสน้ำ ส่วนตนได้พยุงตัวลอยไปติดกิ่งไม้รอดตายมาได้ ก่อนเดินมาแจ้งให้ชาวบ้านให้ช่วยเหลือดังกล่าว
ด้าน นายธีรวุฒิ นงนุช ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอเมืองชุมพร กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นวันที่ 3 แล้ว ตนได้รับคำสั่งให้มาดำเนินการติดตามค้นหาอย่างเร่งด่วน แต่ก่อนหน้าติดปัญหาที่มวลน้ำจำนวนมากที่ไหลหลากและเชี่ยวกราก ทำให้การค้นหาต้องยุติลง จนมาวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการค้นหาผู้สูญหาย จึงต้องปรับแนวการค้นหาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะพบร่าง
สำหรับความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้ ทางจังหวัดชุมพรออกสำรวจเบื้องต้น ตั้งแต่วันที่ 13-15 ธันวาคม 67 พื้นที่จังหวัดชุมพร ทั้ง 8 อำเภอ มีพื้นที่ประสบภัย 62 ตำบล 540 หมู่บ้าน 44 ชุมชน 12,277 ครัวเรือน ผู้ประสบภัย 62,453 คน บ้านเรือน/ที่อยู่อาศัย เสียหาย 11 หลัง วัด 7 แห่ง โรงเรียน 3 แห่ง สถานที่ราชการ 1 แห่ง โรงพยาบาล 2 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตร พืชสวน 33,500 ไร่ นาข้าว 30 ไร่ สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน 224 สาย สะพาน/คอสะพาน 10 แห่ง ท่อลอดเหลี่ยม/ท่อระบายน้ำ 21 แห่ง ฝาย 4 แห่ง เขื่อน 1 แห่ง เสาไฟฟ้า 2 เสา สัตว์เลี้ยง โค 21 ตัว กระบือ 15 ตัว บ่อปลา 14 บ่อ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชุมพร ที่ผ่านมา แม้ขณะนี้ฝนหยุดตกแล้ว แต่ในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เสี่ยงทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดชุมพร ปริมาณน้ำยังคงท่วมสูง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน ชาวบ้านยังต้องการความช่วยเหลือ โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ ทหาร ตชด. หน่วยกู้ภัย ยังระดมกำลังออกช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง