ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบ.ตำรวจไซเบอร์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมที่หาดใหญ่ พบเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 ราย รายแรกเป็นคุณป้าข้าราชการเกษียณถูกหลอกเกือบ 5 หมื่นเกือบโดดน้ำตาย อีกคนสามีถูกหลอกสูญเงิน 4 แสนบาท
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ตลาดพ่อพรหม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการ (รรท.ผบ.) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับมูลนิธิพระราหู ตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้านและครอบครับตำรวจที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ย่านหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามโครงการใจถึงใจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน
พร้อมกับให้ความรู้ชาวบ้านและการป้องกันในเรื่องของการหลอกลวงทางออนไลน์ทุกรูปแบบ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการซื้อขายทางออนไลน์ เพื่อให้ชาวบ้านได้รู้เท่าทันเล่ห์กลไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า อาชญากรรมทางออนไลน์เป็นภัยอันดับหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในปัจจุบัน และได้รับแจ้งเรื่องวันละกว่า 1,000 เคส หากสงสัยว่าถูกมิจฉาชีพโทร.มาหลอกให้โอนเงินอ้างว่าเป็นตำรวจ ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่รับหน่วยงานต่างๆ เช่น สรรพากร การไฟฟ้า ประปา หรือห้างร้าน แอปพลิเคชันเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะรูปแบบใดๆ ก็ตาม ให้ตัดสายทิ้งทันทีแล้วโทร.ไปที่หมายเลข 1441 ซึ่งเป็นสายด่วนตำรวจไซเบอร์ ที่จะรับปรึกษาข้อสงสัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แจ้งเบาะแสและขอความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ระหว่างที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์มอบถุงยังชีพได้รับข้อมูลและการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่เคยตกเป็นเหยื่อถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปเกือบเกลี้ยงบัญชี รายแรกเป็นคุณป้าข้าราชการเกษียณ ซึ่งถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร.มาหลอกเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า มีพัสดุส่งมา แต่พัสดุชำรุดจะรับผิดชอบให้ แต่ว่าขอให้เข้าไลน์เพื่อที่จะส่งรูปพัสดุมาให้ดูปรากฏว่าถูก ดูดเงินที่เก็บสะสมมา 49,999 บาท เหลือติดบัญชีอยู่แค่ 27 สตางค์
คุณป้า บอกว่า ตอนนั้นเกือบที่จะกระโดดน้ำสะพานข้ามคลองอู่ตะเภาฆ่าตัวตาย แต่มาคิดอีกทีถ้าตายไปพวกนี้จะไปหลอกคนอื่นอีกเลยนำเรื่องนี้มาเตือนเพื่อนๆ ให้ระวังเพื่อไม่ให้ใครถูกหลอกอีก
อีกรายรายเป็นหญิงสาวที่สามีถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินไป 4 แสนบาท เหลือติดบัญชีอยู่แค่ 195 บาท ทุกวันนี้ยังแบกภาระผ่อนดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่รูดไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
หญิงสาวรายนี้ เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ย.65 มีผู้หญิงโทร.มาหาสามีบอกประมาณว่า ค้างชำระภาษีอากร หากไม่ชำระจะถูกดำเนินคดี และยังมีชื่อเป็นหุ้นส่วนบริษัทอยู่ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งบริษัทนี้ค้างชำระภาษีและยังเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน โดยส่งเอกสารว่าถูกธนาคารฟ้องร้องมาด้วย หากไม่เกี่ยวข้องก็ต้องโอนเงินมาให้ตรวจสอบและให้โอนเงินทุกบัญชีมาไว้ในบัญชีเดียวกันรวมถึงวงเงินในบัตรเครดิต สามีหลงเชื่อจึงโอนเงินในบัญชีและรูดบัตรเครดิตโอนไปให้ 4 แสนบาท