ชุมพร - ชุมพรฝนยังตกหนักต่อเนื่อง ดินถล่มทับบ้านเจ้าของรอดตายหวุดหวิด ถนนเอเชียสายหลักสู่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยยังถูกตัดขาด ต้องใช้ทางเลี่ยงไปฝั่งอันดามัน ทำเสียเวลาอ้อมกว่า 200 กิโลเมตร
วันนี้ (14 ธ.ค.) จากสถานการณ์ฝนตกหนักครอบคลุมในพื้นที่ จ.ชุมพร ทั้ง 8 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัย สิ่งสาธารณูปโภค ถนนสายหลัก สายรอง และทางเข้าหมู่บ้าน หลายจุดถูกน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถสัญจรได้
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ถนนเอเชีย 41 ตังแต่สี่แยกปฐมพร ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ไปจนถึง อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน อ.ละแม สุดเขตแดนเขตติดต่อกับ จ.สุราษฎร์ธานี มีระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ซี่งเป็นถนนสายหลักขึ้นล่องภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีหลายจุดน้ำท่วมขังถนนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ โดยเฉพาะถนนเอเชีย 41 ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร ห่างจากสี่แยกปฐมพรลงไปทางใต้ประมาณ 3 กิโลเมตร และทางเข้าวัดพระธาตุสวี ต.สวี อ.สวี ก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำสวี น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร และบางช่วงรถเล็กผ่านไม่ได้ ผ่านได้แต่รถบรรทุกขนาดใหญ่ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ตลอดทุกจุด เจ้าหน้าที่ต้องแนะนำให้จอดแวะตามสถานบริการน้ำมัน หรือจุดจอดรถที่ปลอดภัย ทำให้การจราจรบนถนนเอเชีย 41 ฝั่งอ่าวไทยถูกตัดขาด การสัญจรต้องไปใช้เส้นทางเลี่ยงเท่านั้น
โดยประชาชนที่จะสัญจรขึ้นล่องทางภาคใต้ช่วงนี้ จะมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องอยู่ประจำจุดคอยอำนวยความสะดวก โดยทางขาขึ้นถนนเอเชีย 4 ต้องไปใช้เส้นทางเลี่ยงเลี้ยวซ้ายไปถนนหลังสวน-ราชกรูด สามแยกวังตะกอ อ.หลังสวน ออกไปทางฝั่งทะเลอันดามันด้าน จ.ระนอง แล้วใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมไปออกสี่แยกปฐมพร ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร สำหรับขาล่องใต้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนเพชรเกษม สี่แยกปฐมพร ไป จ.ระนอง ไปออกตรงสามแยกวังตะกอ อ.หลังสวน เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องเดินทางอ้อมเป็นระยะทางมากกว่า 200 กิโลเมตร
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ดินสไลด์ถล่มบ้านของราษฎรเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง แต่โชคดีเจ้าของบ้านหนีรอดตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 300/1 หมู่ 3 ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสภาพถูกดินโคลนจากภูเขาได้ไหลสไลด์ลงมาทับบ้านจนหลังคาท้ายครัวหลังบ้านพังลงมากองกับพื้น ทรัพย์สินในบ้านเสียหายจำนวนหนึ่ง ส่วนตัวอาคารด้านหน้าไม่ได้รับความเสียหาย ขณะผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ปรากฏว่าฝนยังตกหนักและยังมีดินไหลสไลด์ลงมาอยู่เรื่อยๆ ป็นระยะ
ด้านนายไพโรจน์ สันโดษ อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านกล่าวว่า ในพื้นที่นี้มีฝนตกมาหลายวันแล้ว จนตอนดึกเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ขณะตนนอนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงต้นไม่หักโค่นและมีเสียงดังลั่นมาก ตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นตนนอนอยู่ในห้องหน้าบ้านเพียงคนเดียว จึงรีบเปิดประตูวิ่งหนีออกมา จึงรู้ต้นไม้หักโค่นและดินถล่ม โชคดีที่ไม่เป็นอะไร มีแต่ทรัพย์สินเสียหาย
