ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ศรีสุนทร จ.ภูเก็ต เสียชีวิตคาที่ แล้วลากศพไปไกลถึง 800 เมตร ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดติดตามตัวคนชนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลาประมาณ 03.20 น. ร.ต.อ.อัชฌา ยะติวัฒน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์เก๋งสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับออกมาจากซอยบางโจ เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีสุนทร ต.ศรีสุนทร อ ถลาง ได้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ทะเบียน ฆ 5167 พังงา มีผู้เสียชีวิตและได้ขับมาจาก ต.เชิงทะเลมุ่งหน้าบ้านม่าหนิก หลังจากเฉี่ยวชนผู้ขับรถยนต์ได้ขับหลบหนีไป โดยลากร่างผู้เสียชีวิตไปด้วย ติดรถไปประมาณ 800 เมตร จนถึงซอยเชิงทะเล 4 จนกระทั่งมีคนพบศพผู้เสียชีวิตภายในซอยบริเวณโค้งหักศอก
จากนั้นได้ตรวจเกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุประมาณ 35-40 ปี ไม่พบเอกสารติดตัวใดๆ มีแต่โทรศัพท์มือถือเพียง 1 เครื่อง ซึ่งใช้รหัสล็อกเอาไว้ ตามร่างกายผู้ตายมีร่องรอยถูกกระแทกและรอยลากครูดถนนทั่วร่างกาย พยานผู้พบศพผู้เสียชีวิต ให้การว่า พบรอยเลือดมาตลอดเส้นทาง จนกระทั่งมาถึงที่พบศพ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล จึงได้ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุ ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลถลาง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดพบศพ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากห้องปฏิบัติการ cctv สภ.เชิงทะเล เพื่อจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตัวเจ้าของรถเก๋งสีขาวคันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 10.20 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.วีระพงศ์ รักขิโต ผกก.สภ.เชิงทะเลได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ตว่า นายวัชระ บุตรดา อายุ 41 ปีผู้ขับรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาว ทะเบียน กล 9692 ภูเก็ตที่ก่อเหตุชนชายนิรนามขี่รถ จยย.ฮอนด้าเสียชีวิตในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลางแล้วหลบหนี โดยผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นายกุลชาติ อัมพไพศาล อายุ 22 ปีได้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง โดยพนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดรถเก๋งคันเกิดเหตุไว้เป็นของกลาง เพื่อให้ พฐ.ก็บหลักฐานและร่อยรอยเฉี่ยวชนพร้อมกับส่งตัวผู้ต้องหาให้แพทย์ตรวจประมาณแอลกอฮอลในเลือดไว้แล้ว โดยแจ้งข้อกล่าวหากระทำ(ขับรถ)โดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและไม่แสดงตัวแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันทีต่อไป