พังงา -ผ ญาติร้องสื่อขอความเป็นธรรม น้องชายขับรถมอเตอร์ไซค์กลับจากทำงานโรงแรมชนท้ายรถเทรลเลอร์ถอดหางทิ้งข้างถนน ไม่มีเครื่องหมายหรือสัญญาณเตือนจนทำให้เสียชีวิต
วันนี้ (14 ธ.ค.) นางปรางทิพย์ คงศรี พี่สาวของนายสนธยา แซ่เจี้ยว อายุ 26 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านเขาหลัก ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเทรลเลอร์จอดท่อนหางทิ้งข้างถนนเพชรเกษมสายตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง หมูที่ 3 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จนทำให้นายสนธยา ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 12 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 21.20 น. โดยหลังจากเกิดเหตุทาง ร.ต.อ.หญิงภคนันท์ ศรีนันทพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า และแพทย์โรงพยาบาลตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาธรรมสถานตะกั่วป่า ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน กธน 357 พังงา ชนท้ายหางรถเทรลเลอร์ หมายเลขทะเบียน THAILAND 76 71-0762 เพชรบุรี ถอดหางทิ้งข้างถนนไม่มีเครื่องหมาย หรือสัญญาณเตือน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกรวยยางมาวางหลังจากเกิดเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บสาหัสหัวแตกเลือดไหลเป็นกอง ขาด้านซ้ายหัก กระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด และคอหัก จนทำให้เสียชีวิต ทางแพทย์โรงพยาบาลตะกั่วป่าได้ชันสูตรพลิกศพ ก่อนส่งศพให้ญาติไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางม่วง และจะฌาปนกิจศพในวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค.67 เวลา 12.30 น.ซึ่งทางญาติร้องขอความเป็นธรรมให้น้องชายที่เสียชีวิตในครั้งนี้
นางปรางทิพย์ คงศรี พี่สาวกล่าวว่า น้องได้ทำงานอยู่ที่โรงแรมที่เขาหลัก ปกติน้องจะทำงานตั้งแต่ 8 โมงถึง 5 โมง แต่วันนั้นน้องได้ทำโอที กลับจากที่ทำงานประมาณ 21.00 น. เดินทางมาถึงที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งน้องมองไม่เห็นเนื่องจากมีไฟที่ส่องสว่างไม่เพียงพอส่งผลให้น้องชนท้ายกับรถเทรลเลอร์ เพราะน้องมองไม่เห็นรถที่จอดอยู่เนื่องจากไม่มีกรวยมาวางที่บริเวณนั้น ไฟสัญญาณเตือนก็ไม่มีว่ามีรถเสีย และส่งผลทำให้น้องมองไม่เห็นรถที่จอดอยู่ และจอดเลยเส้นขาวออกมาจากเลนรถจักรยานยนต์ ส่งผลทำให้น้องได้ชนกับตัวรถและได้รับบาดเจ็บ ทำให้น้องเสียชีวิต น้องอายุยังน้อยแค่ 26 ปี ซึ่งน้องได้อ่านหนังสือเตรียมตัวที่จะไปสอบตำรวจ เขาอยากมีอาชีพที่มั่นคง ซึ่งน้องอาศัยอยู่กับพ่อแค่ 2 คน
เราจึงอยากเรียกความเป็นธรรมให้น้อง อยากให้เจ้าของรถออกมาแสดงความรับผิดชอบ หลังจากเกิดเหตุไม่ได้มาดูแล หรือเดินทางมาร่วมงาน แค่คำว่าขอโทษยังไม่มีเลย ทางด้าน ผู้เสียชีวิตไม่ได้โทษว่า เขาเป็นคนผิด อยากสอบถามผู้รู้เกี่ยวกับด้านกฎหมาย ว่าการที่รถเสียโดยที่ไม่มีกรวยตั้งหรือสัญญาณเตือนใดๆ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือไม่ อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำหรือชี้แนะแนวทางให้หน่อยเพื่อจะได้ทราบ และดำเนินการอย่างไร อยากวิงวอนให้ทางเจ้าของรถมาพูดคุย และแสดงความรับผิดชอบ เบื้องต้นทางญาติได้ดำเนินการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเอาไว้แล้ว และนัดคุยอีกครั้งในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ว่าจะดำเนินการ และสรุปคดีอย่างไรต่อไป
สาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ 1 น้องคอหัก แขนหัก ขาหัก ซี่โครงโดนกระดูกแทงที่ปอดด้านซ้ายของน้องหักทั้งหมด ส่งผลให้เสียชีวิต น้องเป็นเด็กน่ารัก ไม่เกเรขยันทำงาน ไม่เคยสร้างปัญหาให้ทางครอบครัวให้หนักใจ ทุกคนในบ้านจึงรัก น้องเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูด จากการที่รถเทรลเลอร์จอดข้างถนนโดยที่ไม่มีกรวยตั้ง ไม่มีสัญญาณเตือน มันเป็นความผิดของใคร และน้องเรา ได้ขับรถบนทางถนนปกติ ซึ่งอยากให้ผู้รู้ เรื่องกฎหมายเข้ามาให้ความรู้เเละคลายข้อสงสัยกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เพื่อน้องจะได้รับความเป็นธรรมต่อไป
ทาง ร.ต.อ.หญิงภคนันท์ ศรีนันทพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทำบันทึกหลักฐานไว้แล้วซึ่งในวันอังคารที่ 17 ธ.ค.2567 จะเรียกผู้เสียหายและเจ้าของรถเทรลเลอร์มาพูดคุยตกลงกันที่ สภ.ตะกั่วป่า ต่อไป