ปัตตานี - ป.ป.ช.ปัตตานี ทักท้วงโครงการปะการังเทียม งบกว่า 18 ล้าน เป็นงานก่อสร้างตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 หรือไม่ หวั่นอาจทำให้ราชการเสียหายได้
นายธีรชัย สุขเกษม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ตรวจติดตามสังเกตการณ์การดำเนินโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูอย่างยั่งยืน (ปะการังเทียม) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของจังหวัดปัตตานี วงเงินตามสัญญา 18,850,000 บาท ณ ห้องประชุมตะโละกาโปร์ ศาลากลางจังหวัดปัตตานี และพื้นที่ดำเนินโครงการ โดยมีประมงจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้นำตรวจ
จากการตรวจสอบ พบว่า โครงการปะการังเทียมได้รับงบประมาณตามแผนปฏิบัติการประจำปีจังหวัดปัตตานี/กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 19,067,100 บาท มีห้างหุ้นส่วนจำกัด ปัตตานี มหพันธ์ก่อสร้าง เป็นผู้รับจ้าง ด้วยค่าจ้าง 18,850,000 บาท ทำสัญญาเป็นสัญญาจ้างก่อสร้าง เลขที่ 430/2567 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 แบ่งงวดงานออกเป็น 6 งวดงาน โดยมีลักษณะงานจ้างเป็นการจัดทำแท่งปะการังเทียม ขนาด 1.5 x1.5x1.5 เมตร และทุ่นลอยน้ำ 18 ทุ่น พร้อมนำไปจัดวางในทะเลพื้นที่ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จำนวน 1,000 แท่ง พื้นที่ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จำนวน 1,000 แท่ง และพื้นที่ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จำนวน 1,000 แท่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการปะการังเทียม จังหวัดปัตตานีได้กำหนดดำเนินการว่าจ้างเป็นงานก่อสร้าง ป.ป.ช.ปัตตานี จึงได้ทักท้วงให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาว่า การจัดทำปะการังเทียมแล้วนำไปวางทิ้งในทะเลถือว่าเป็น “งานก่อสร้าง” ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 หรือไม่ หากการจัดทำปะการังเทียมเป็นงานจ้างทำของ แต่หน่วยงานกลับว่าจ้างเป็นงานก่อสร้างที่ต้องมีค่า Factor F ทำให้ค่าจ้างแพงขึ้น 3-4 ล้านบาท อาจทำให้ราชการเสียหายได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแท่งปะการังเทียมคอนกรีต ณ สถานที่หล่อแท่งปะการังเทียมคอนกรีตของผู้รับจ้างในพื้นที่ตำบลบานา และท่าเทียบเรือปัตตานี ซึ่งผลการสุ่มวัดแท่งปะการังเทียมคอนกรีต ในเบื้องต้นพบว่าเป็นไปตามแบบรูปรายการตามสัญญาจ้าง พร้อมทั้งได้สอบถามกระบวนการขั้นตอนในการนำแท่งปะการังเทียมคอนกรีตไปวางในทะเลจากเจ้าหน้าที่โครงการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถไปตรวจติดตามได้เนื่องจากอยู่ในช่วงมรสุม อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่สภาวะปกติจะได้มีการไปตรวจติดตาม ณ จุดวางแท่นปะการังเทียมในทะเลอีกครั้ง พร้อมทั้งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติราชการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด