ปัตตานี - เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังบุกจับกลุ่มแรงงานต่างด้าวลอบขายอาหารทะเลสดภายในองค์การสะพานปลา ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี พบใช้คนไทยเป็นนายจ้างขายตัดราคาแม่ค้าไทยเดือดร้อนทั้งสะพานปลา
วันนี้ (12 ธ.ค.) จากที่มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออกมาร้องว่าถูกกลุ่มต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา เป็นนายจ้างอยู่เบื้องหลัง มีการจ้างคนไทยให้มาเป็นนายจ้าง (นอมีนี) เปิดแผงขายอาหารทะเลสดภายในองค์การสะพานปลา ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี นับร้อยแผง และมีการขายตัดราคาพ่อค้าแม่ค้าคนไทย จนทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนไทยได้รับความเดือดร้อนนานนับปี โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เมินเฉยไม่ได้รับการแก้ไข
ล่าสุด ทาง พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบหากพบการกระทำความผิดให้จับกุมทันที จากนั้นจึงได้หารือสรุปผลการปฏิบัติโดยเรียกหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทางนายอำเภอเมืองปัตตานี กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปัตตานี สำนักงานจัดหางานจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมประชุม
ซึ่งรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้ทำการสืบสวนจากแหล่งข่าวจนทราบว่า มีแรงงานต่างด้าวมีพฤติกรรมขายอาหารทะเลหน้าร้านตามล็อกภายในองค์การสะพานปลา ต.บานา อ.เมืองปัตตานี โดยจะเห็นแรงงานต่างด้าวซึ่งแท้จริงแล้วเป็นนายจ้างทำทีเป็นคนงานยืนรับลูกค้าหน้าร้าน คอยบอกราคา หยิบปลา ชั่งปลา และรับเงินด้วยตนเอง เข้าลักษณะประกอบธุรกิจต้องห้าม ส่วนคนไทยที่ถูกว่าจ้างวันละ 500 บาทให้เป็นเจ้าของ หรือนอมินีนั้นยืนนั่งปกติ
จึงได้ร่วมประชุมวางแผนกำหนดเป้าหมาย จำนวน 15 เป้าหมาย ซึ่งเป็นลักษณะล็อกขายปลา ก่อนจะนำกำลังร่วม 60 นายเข้าปฏิบัติการจับกุมทันที ผลการปฏิบัติในการดำเนินการตามกฎหมายได้ทั้งสิ้น 5 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น จำนวน 13 ราย แบ่งเป็น จับกุมคนไทยที่เป็นนายจ้าง จำนวน 6 ราย ดำเนินคดีในข้อหา รับคนต่างด้าวเข้าทำงานนอกเหนือสิทธิที่ให้ทำได้ จับกุมแรงงานต่างด้าว จำนวน 7 ราย ซึ่งเป็นลูกจ้างแผงขายปลา มีใบอนุญาตทำงานเป็นกรรมกร แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขายของหน้าร้าน ดำเนินคดีในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี เพื่อดำเดินการตามกฎหมาย
จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าหนึ่งใน 5 เป้าหมายที่จับกุม คือ นางสุนีย์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของแผงขายปลา ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้เช่าแผงจากองค์การสะพานปลาและปล่อยเช่าช่วงต่อให้ นางกุนที เพือก ผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชา และ นายซอวี ชอม สัญชาติกัมพูชา สองสามีภรรยา ในราคา 5,000 บาทต่อเดือน และ นายซอวี ได้จ้างตนเองเป็นนายจ้าง โดยรับค่าตอบแทนวันละ 500 บาท และจากการซักถาม นายชอวี ให้การปฏิเสธว่าตนไม่ใช่เจ้าของแผงแต่เป็นลูกจ้างซึ่งขัดแย้งกับพยานหลักฐานรายการแชตสนทนาการซื้อขายปลา และสลิปการโอนเงินในโทรศัพท์ ซึ่งเป็นของนายชอวี
จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นางสุนีย์ (สงวนนามสกุล) ในข้อหา เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้าย โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว และดำเนินคดี นางกุนที และนายซอวี ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยมิได้รับอนุญาตต่อไป