ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จนมุมอีก 17 ลำ เจ้าท่า สนธิกำลัง ศร.ชล.ภาค 3 ตำรวจน้ำ นำเรือออกกวาดล้างเจ็ตสกีเถื่อนในทะเล 3 จุด “แหลมงา” “เกาะมะลิ” และ “เกาะแพ” ขณะนำออกไปให้บริการนักท่องเที่ยวเช่า จับได้อีก 17 ลำ
ภายหลังมีการร้องเรียน ว่า มีผู้ประกอบการนำ เจ็ตสกีมาให้บริการนักท่องเที่ยวเช่าเล่นนอกพื้นที่โซนนิ่ง และให้บริการเช่าเจ็ตสกีโดยไม่มีใบอนุญาต ทางจังหวัดภูเก็ต โดยนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมและปราบปรามการให้บริการเช่าเจ็ตสกีโดยไม่ได้รับอนุญาต และการให้บริการนอกโซนนิ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ทางสำนักงานเจ้าท่าสาขาภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการปราบปรามและจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่า ทางผู้ประกอบการยังคงฝ่าฝืน
ล่าสุด วันนี้ (11 ธ.ค.) ได้มอบหมายให้นายประเวศน์ สุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ดร.สมคิด ช่อคง ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ชุดที่ 1
โดยมีนายสมศักดิ์ นิลตีบ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ เป็นหัวหน้าชุด ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือภูเก็ต ศรชล.ภาค 3 และสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมบูรณาการสนธิกำลังออกตรวจตราปราบปรามบริเวณแหลมงา เกาะมะลิ และเกาะแพ โดยใช้เรือของ ศรชล.ภ.3 ออกตรวจตราปราบปรามผู้ฝ่าฝืนตามนโยบายจังหวัดภูเก็ต
ผลการตรวจตรา พบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาตใช้เรือ จำนวน 17 ลำ จึงได้จับกุมและแจ้งข้อหาความผิดกับผู้ประกอบการเรือทั้ง 17 ลำ พร้อมเปรียบเทียบปรับ เป็นความผิดตามมาตรา 9 พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2481 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 60 (ฉบับ 14) พ.ศ.2535 มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และได้ทำการเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุดลำละ 10,000 บาท พร้อมกันนี้ได้แจ้งกำชับให้ผู้ประกอบการห้ามใช้เจ็ตสกีออกบริการนักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาดจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป