ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจยังเอาไม่อยู่ถูกเหวี่ยงกระเด็น เมาเพี้ยนหนัก นักท่องเที่ยวร่างยักษ์ยกตำรามวยวัดซัดไม่ยั้งตำรวจ รปภ. ชาวบ้านช่วยจับแต่เอาไม่อยู่ถูกเหวี่ยงกระเด็น ด้านตำรวจแจงการจับกุมทำตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก
กลายเป็นกระแสในโซเชียลอีกแล้ว เมื่อมีการเผยแพร่คลิปนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไล่เตะ ต่อยนักท่องเที่ยวด้วยกัน ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าไปห้ามปราม และ ช่วยกันสกัด เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวไล่ทำร้ายคนที่เดินผ่านไปมา
โดยในคลิปเป็นภาพนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติ รูปร่างสูงใหญ่ ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงตัวเดียว อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง มุ่งจะทำร้าย เตะ ต่อย และกระโดดถีบไปทั่ว โดยไม่สนว่าใครเป็นใคร แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ ประชาชนที่พยายามเข้าไปห้ามปราม กลับถูกไล่เตะ ไล่ต่อย และจับเหวี่ยงจนล้มลงกับพื้นเป็นแถว ด้านภรรยาพยายามห้ามแต่ไม่เป็นผล ส่วนลูกชายร้องระงมด้วยความตกใจ
หลังจากคลิปได้แชร์ออกไป มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก เช่น ฝรั่งคนเดียวแต่อยู่ตรงนั้น 4-5 คนยังวิ่งอ่ะ นึกว่ามวยปล้ำ #บ้าคลั่ง #น่ากลัว แบบนี้ ตร.ควรจับ แล้วส่งให้ ตม. ส่งกลับประเทศไปเลยค่ะ! แล้วลง Black list สัก 5 ปี ห้ามเข้าประเทศค่ะ!!! อย่าปล่อยให้นักท่องเที่ยวทำแบบนี้เลยค่ะ เสียชื่อประเทศหมด
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วันนี้ (11 ธ.ค.) เวลาประมาณ 03.10 น. ทางตำรวจภูธรกะรน จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังก่อเหตุวุ่นวายในลักษณะเมาสุรา คลุ้มคลั่ง ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนเลียบหาดกะรน หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ
พบนักท่องเที่ยวชาย อายุ 39 สัญชาติเบลารุส อยู่ในอาการเมาสุรา สวมกางเกงชั้นใน ยืนตะโกนร้องอาละวาดอยู่ โดยมีภรรยาและบุตร คอยพูดจาเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยามเข้าควบคุมตัวแต่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวไม่ยินยอม โดยได้ต่อสู้ขัดขืนการจับกุม ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และใช้กำลังทุบรถยนต์สายตรวจได้รับความเสียหาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้นำส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกะรน ดำเนินคดีในข้อหา เมาสุราอาละวาด ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และทำให้เสียทรัพย์
ในการควบคุมตัวผู้ต้องหาในลักษณะที่ปรากฏ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักการใช้กำลังจากเบาไปหาหนัก เนื่องจากตัวผู้ต้องหาเป็นนักท่องเที่ยว ไม่มีอาวุธแต่มีกำลังมาก ร่างกายสูงใหญ่ การปฏิบัติจึงต้องใช้ความระมัดระวัง ซึ่งในการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการไปตามกฎหมายอย่างเข้มข้น