ชุมพร - สาวขับบีเอ็มซิ่งเสยท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ เบี้ยวนัด ไม่มาไกล่เกลี่ยเยียวยาตามนัด เป็นครั้งที่ 2 คราวนี้เบี้ยวอัยการ หลังเบี้ยว ตร.มาแล้ว ด้านอัยการเตรียมออกหนังสือเรียกมาไกล่เกลี่ยอีกครั้ง
จากกรณี น.ส.จิรันธนิน แตงขาว อายุ 30 ปี ขับเก๋ง BMW ชนรถ จยย. ทำให้แม่ลูกเสียชีวิต 3 ศพ เหตุเกิด จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา โดยตำรวจได้แจ้งข้อหาหนัก และได้รับประกันตัวในชั้นศาล คดีอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและสำนวนส่งอัยการฟ้องต่อศาลจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ได้นัดให้มาเจรจาไกลเกลี่ยกันที่ สภ.เมืองชุมพร แต่ฝ่ายคนขับเก๋งบีเอ็มเบี้ยวไม่มาตามนัด อ้างว่าป่วยไม่สามารถเดินทางมาได้ และได้มีการนัดหมายกันใหม่ในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่สำนักงานอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 9 ธ.ค.67 ที่สำนักงานอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร นายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร นายประกฤษณ์ รัตนภา สามีและพ่อของลูกที่ถูก น.ส.จิรันธนิน ขับเก๋ง BMW ป้ายประมูล กจ 44 นครศรีธรรมราช ขับด้วยความเร็ว 207 กม./ชม.พุ่งชนเสยท้ายรถจักรยานยนต์เสียชีวิตทั้งแม่และลูกอีก 2 คน รวม 3 ศพ ได้เดินทางมาพร้อมกับญาติสนิทอีก 2 คน เพื่อร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องการการชดเชยเยียวยา ตามที่ได้มีการนัดหมายกับสาวคนขับเก๋ง BMW แต่รอจนเกินเวลานาน สาวคนขับเก๋ง BMW ก็ไม่มาตามนัดหมายแต่อย่างใด
หลังจากนั้น นายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพรได้พูดคุยกับนายประกฤษณ์ รัตนภา เกี่ยวกับสิทธิทางกฎหมายทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายประกฤษณ์ ผู้สูญเสียลูกเมีย 3 ศพกล่าวภายหลังเข้าพบกับทางอัยการว่า ทางอัยการได้บอกกล่าวเกี่ยวกับขั้นตอนทางคดีแพ่งและคดีอาญา ตอนนี้เราทำตามขั้นตอนไปก่อนส่วนคดีแพ่งยังไม่จบเพราะต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายคู่กรณีเพราะยังไม่มีพูดคุยกัน ส่วนวันนี้ตนไม่ทราบว่าทำไมถึงไม่มา วันนี้ตนจึงได้ยื่นหนังสือต่ออัยการขอให้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งคู่กรณีให้มาไกล่เกลี่ยกันในรอบต่อไปโดยตนกำหนดเป็นวันที่ 25 ธันวาคมเวลา 13.00 น.ซึ่งทางอัยการบอกว่าจะรีบส่งหนังสือถึงคู่กรณีภายในวันพฤหัสบดีนี้ส่วนเขาจะมาหรือไม่มาอยู่ที่ฝ่ายเขา ถ้าไม่มาอีกจะเป็นผลเสียกับตัวเขาเอง
นายประกฤษณ์ กล่าวถึงคดีอาญาว่าทางอัยการและตำรวจบอกว่า จะดำเนินการให้เร็วที่สุดไม่น่าจะเกิน 3 เดือนจะส่งฟ้องศาลได้ส่วนคดีแพ่งอยู่ที่คู่กรณีกับตนถ้าคู่กรณียังถ่วงเวลาออกไปเรื่อยๆ ในส่วนของกระบวนการทางกฎหมายน่าจะมีบังคับได้อยู่เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ
ส่วนกรณีมีชาวบ้านเห็นลูกสาวลูกชายที่เสียชีวิตยังยืนอยู่ที่จุดเกิดหตุนั้น นายประกฤษณ์ กล่าวว่าตนยังไม่ทราบ แต่ในส่วนตนได้ทำพิธีเชิญวิญญาณของทั้ง 3 แม่ลูก มาอยู่ที่มูลนิธิหมดแล้วส่วนที่เขาจะไปอยู่ที่จุดนั้นอีกอาจจะเป็นห่วงหรือความกังวลของเขามากกว่า แต่ในใจตนคิดว่าทั้ง 3 ได้มาสงบอยู่ที่มูลนิธิแล้วมากกว่าซึ่งตนจะเข้าไปหาอยู่เรื่อยๆ
ด้านนายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร กล่าวว่า วันนี้ทางรองผู้กำกับ สภ.เมืองชุมพรได้พาผู้เสียหายมาพูดคุยในข้อกฎหมายสิทธิทางกฎหมายในฐานะเป็นผู้เสียหาย ซึ่งทางสำนักงานอัยการพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ
และจะเชิญคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยโดยจะออกหนังสือเชิญคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยกันในวันพฤหัสบดีนี้อีกครั้ง คดีนี้แยกเป็น 2 ส่วนคือคดีอาญานั้นยังดำเนินการตามปกติ พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น ในส่วนที่ตนมารับผิดชอบคือเรื่องค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าเสียหายทางแพ่งดำเนินการคู่ขนานกันไป ต้องดูว่าทางคู่กรณีไม่มาไกล่เกลี่ยและทางผู้เสียหายยังประสงค์ที่จะให้ทางอัยการช่วยเหลืออยู่ไหมเราจะออกหนังสือเชิญครั้งที่ 2 ถ้าเขาไม่มาอีกอยู่ที่ฝ่ายผู้เสียหายถ้าไม่อยากไกล่เกลี่ยแล้วต้องยุติเรื่องสิทธิทางคดีแพ่งยังอยู่ ยังเรียกร้องได้อยู่
นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า ถ้ายังไม่มาอีกก็ไม่ใช่หมายความว่าจะจบสิ้นและเขาจะหลุดพ้นเพราะจะเป็นขั้นตอนต่อไปหากพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีอาญาจะอยู่ในชั้นศาลที่จะมีการเรียกไกล่เกลี่ยกันได้อีก
