ชุมพร - สาวคนขับ BMW เสยท้ายรถจักรยานยนต์ทำ 3 แม่ลูกดับ อ้างป่วยไม่มาไกล่เกลี่ยตามนัดหมาย ด้านพ่อและสามีผู้เสียชีวิต ยืนยันจะไม่เผาศพจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ และได้รับความเป็นธรรม
จากกรณี น.ส.จิรันธนิน แตงขาว อายุ 30 ปี ขับเก๋ง BMW ชนรถ จยย. ทำให้แม่ลูกเสียชีวิต รวม 3 ศพ เหตุเกิดเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (8 ธ.ค.) นายประกฤษณ์ สามีและพ่อของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ พร้อมด้วยญาติ เดินทางมา สภ.เมืองชุมพร เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องเงินประกันและเงินเยียวยากับบริษัทประกันภัย และคู่กรณีตามนัดหมาย โดยฝ่ายผู้เสียหายมีคณะของทนายความ ของทนายแก้ว เข้าร่วมเจรจา ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) สภ.เมืองชุมพร แต่ปรากฏว่า น.ส.จิรันธนิน แตงขาว คนขับเก๋ง BMW คู่กรณี ไม่มาร่วมเจรจา ตามที่ได้มีการนัดหมายกันไว้
นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ.กล่าวว่า ทางบริษัทได้เร่งรัดจ่ายเงินให้เต็มจำนวน จากกรณีนี้ได้มีการร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน เข้ามาประสานงานทางบริษัท โดยทางทางฝ่ายผู้เสียหายจะได้รับเงินจากประกันภัยภาคบังคับ และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถรายละ 500,000 บาท ภาคสมัครใจ รายละ 1,000,000 บาท เต็มกรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 4,500,000 บาท สินไหมทดแทนทรัพย์สินเสีย คือรถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์ไอแพด เป็นเงิน 95,000 บาท
ด้านนายอำนาจ มาตรง ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายและกำกับดูแล องค์กรฟอลคอนประกันภัย กล่าวว่า หลังจากบริษัทประกันภัย ทราบข่าวจากสื่อมวลชนและจากหน่วยงานเกี่ยวข้องในกรณีที่เกิดขึ้น ในวันแรกๆ ทางบริษัทกลางขอให้ทางเราดำเนินการจ่ายเงินสินไหมไปก่อน 1 ล้านบาท จนมาวันนี้ทางเรา ได้มาชำระจนครบตามจำนวน 4,500,000 บาท โดยตามกฎหมายเงินประกัน ในส่วนนี้จะแบ่งเป็นของสามีผู้เสียชีวิตในฐานะทายาทจะได้ 75 เปอร์เซ็น และคุณยายหรือมารดาของผู้เสียชีวิต ในฐานนะทายาทจะได้ 25 เปอร์เซ็นต์
พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมสศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า ทางด้านผู้ต้องหาที่เป็นคู่กรณีได้มาแจ้งลงบันทึก ว่า มีอาการป่วยจึงไม่สามารถเข้ามาประชุมในวันนี้ได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย และขอขอบคุณพี่น้องสื่อที่ให้ความสนใจและดูแลข่าวนี้เป็นอย่างดี กรณีคดีอาญาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำสำนวนส่งอัยการเพื่อทำการสั่งฟ้องต่อไปแล้ว
ขณะที่ นายประกฤษณ์ สามีผู้ตายกล่าวว่า ตนเพิ่งจะมารู้ว่าคู่กรณีคนขับเก๋งบีเอ็ม ไม่ได้มาตามนัดหมาย ตอนที่มาถึง สภ.เมืองชุมพร จริงๆ แล้วตนคิดไว้แล้วว่าไม่น่าจะมาสู้หน้าตน ซึ่งตนมีความรู้สึกทวีคูณมากขึ้นกับความจริงใจของฝ่ายคู่กรณี
นายประกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ทาง ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้นัดหมายใหม่อีกครั้ง โดยนัดหมายกับคู่กรณีให้ไปเจรจากันที่สำนักงานอัยการจังหวัด และตนยังยืนยันค่าชดเชยเยียวยาที่ 25 ล้าน และเป็นคนละส่วนกับเงินประกันภัย
นายประกฤษณ์ กล่าวยืนยันว่า ตนจะยังเก็บศพลูกเมียไว้ที่มูลนิธิชุมพร จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม และคดีจะแล้วเสร็จ และตอนนี้ได้ไปจุดธูปเทียนบอกกล่าวกับลูกเมียไว้แล้วว่าอย่ าไปกวนเจ้าหน้าที่กู้ภัยในมูลนิธิอีก ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ไม่พบเหตุการณ์โลงสั่น หรือเสียงเรียกออกมาจากโลงศพอีกเลย