ยะลา - รองนายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่ จ.ยะลา ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เผยรัฐบาลพร้อมเคียงข้างประชาชนให้ผ่านพ้นอุทกภัยขอให้มั่นใจ พร้อมสั่งการหน่วยราชการดูแลในทุกมิติ
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะลงพื้นที่ตรวจราชการอุทกภัยภาคใต้ จ.ยะลา ยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และแผนการแก้ไขปัญหา จากศูนย์สนับสนุนจังหวัดเพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้มีการจัดตั้งให้ ศอ.บต. เป็นหน่วยประสานงานหลัก เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา
ต่อมา รองนายกฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะได้เดินทางไปยังอาคารศรีนิบง ภายในสนามศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา เพื่อพบปะชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จำนวน 500 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครยะลา เขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก และเขตเทศบาลตำบลท่าสาป เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจ และยังได้มอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
โดยสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ ขณะนี้ยังมีพื้นที่ประสบภัย 10 อำเภอ ประกอบด้วย 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา 3 อำเภอในจังหวัดปัตตานี และ 3 อำเภอในจังหวัดนราธิวาส โดยยังมีครัวเรือนประสบภัยทั้งสิ้น 78,316 ครัวเรือน
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ จึงมอบหมายให้รองนายกฯ และคณะ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ และขอเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการตามภารกิจของหน่วยงาน โดยขอให้ ศอ.บต. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย พร้อมจัดหาเครื่องจักร เครื่องมือให้พร้อมต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ขอมอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ชลประทาน จังหวัด ปภ. เร่งระบายน้ำในพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อีกทั้ง ขอให้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2567 และป้องกันสถานการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนบางลาง และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยประชาชนล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อสถานการณ์น้ำ ทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง และการบริหารจัดการน้ำในทุกมิติเพื่อให้ประชาชนผ่านพ้นสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน อย่างไรก็ตามสำหรับการเยียวยาประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบอนุมัติการจ่ายเงิน 5,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยกรณีที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยประจำพื้นที่น้ำท่วมไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเกินกว่า 7 วัน ให้มีการช่วยเหลืออัตราเดียวทุกครัวเรือนๆ ละ 9,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ในมาตรการช่วยเหลือจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วย