ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทุบสถิติของความสูญเสีย “พะยูน” ตายแล้ว 41 ตัว ในรอบปี 67 ล่าสุดแค่ 3 วัน ตายไปแล้ว 5 ตัว เป็นพะยูนในทะเลกระบี่ 3 ตัว และทะเลตรังอีก 2 ตัว ทำให้สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤต
กลายเป็นการทำลายสถิติของความสูญเสียไปแล้วสำหรับการตายของ “พะยูน” ทะเลอันดามัน สัตว์สงวนเลี้ยงลูกนม และเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ พบว่าในปีนี้ พะยูนในทะเลตายไปแล้ว 41 ตัว ซึ่งเป็นการตายที่ทำลายสถิติ เมื่อปี 2566 ไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งปี 2566 พบว่า พะยูนในทะเลอันดามันตายไป 40 ตัว ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นความสูญเสียที่ไม่สามารถประมาณการได้
ซึ่งจากการสำรวจของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีการระบุว่า ปัจจุบัน “พะยูน” ทะเลอันดามัน ไม่น่าจะมีถึง 100 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามีการอพยพจากแหล่งหากินเดิมที่ จ.ตรัง และกระบี่ ย้ายถิ่นมาอยู่ที่ภูเก็ต ยังมีอาศัยอยู่ที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรังเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เนื่องจากปัญหาหญ้าทะเลตาย เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ชาวบ้านพบซากพะยูนโตเต็มวัย ลอยตายใกล้ท่าเทียบเรืออ่าวน้ำเมา หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ อีก 1 ตัว โดยนายวีระศักดิ์ หง้าฝา อายุ 37 ปี ผู้พบซาก เปิดเผยว่า ได้เห็นซากพะยูนลอยทะเลอยู่ห่างจากสะพานทุ่นลอยน้ำอ่าวน้ำเมาประมาณ 5-10 เมตร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ให้เข้ามาตรวจสอบและเคลื่อนย้าย
จากการตรวจสอบซากพะยูนดังกล่าวเป็นเพศผู้ โตเต็มวัย ยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 170 กิโลกรัม จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่คาดว่าอาจเสียชีวิตจากการป่วยตายตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม สำหรับการสูญเสียพะยูนในทะเลกระบี่ รอบสัปดาห์นี้สูญเสียไปแล้ว 3 ตัว โดยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการพบซากพะยูนไปแล้ว 2 ตัว โดยตัวแรกพบในอำเภอเกาะลันตา ตัวที่สอง พบในอำเภอเหนือคลอง
สำหรับการเสียชีวิตของพะยูนในครั้งนี้สร้างความกังวลให้ชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากพะยูนเป็นสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งการพบซากถึง 3 ตัวในเวลาใกล้เคียงกันถือเป็นสัญญาณวิกฤต และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุการตายของพะยูนที่จริงจังอย่างเร่งด่วน
นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการพบซากพะยูนตายที่จังหวัดตรังอีก 2 ตัว โดยพบที่เกาะมุกด์ 1 และหน้าหาดหยงหลิง 1 ตัว
