xs
xsm
sm
md
lg

หนักสุดในรอบ 14 ปี! กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังในคลองอู่ตะเภาเศร้าปลาตายเพียบจากน้ำท่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังในคลองอู่ตะเภา พื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ต้องเศร้าหนัก เมื่อปลาที่เลี้ยงไว้กว่า 100 กระชังตายเป็นจำนวนมากจากเหตุน้ำท่วม เผยนับเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ในรอบ 14 ปี

วันนี้ (3 ธ.ค.) จากสถานการณ์อุทกภัยเกือบทุกพื้นที่ใน อ.สะเดา จ.สงขลา สร้างผลกระทบอย่างหนักจากฝนที่ตกหนักและน้ำท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ส่งผลให้กลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังในคลองอู่ตะเภา หมู่ที่ 7 บ้านม่วงก็อง ต.พังลา อ.สะเดา ซึ่งเป็นเเหล่งเลี้ยงปลากระชัง (ปลาน้ำจืด) ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสงขลา เนื้อปลาได้มาตรฐานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (มาตรฐาน GAP) ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง


เบื้องต้น พบว่ามีผู้เลี้ยงปลาในกระชังที่จัดตั้งเป็น “กลุ่มวิสาหกิจผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเพื่อการผลิตบ้านม่วงก็อง” สมาชิกจำนวน 16 ราย มีจำนวนกระชัง 100 กระชัง ปลาที่เลี้ยงไว้ตายเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล คาดว่ามูลค่าความเสียหายร่วมหลักล้านบาท โดยส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงปลาเหล่านี้วางแผนจะจับปลาเพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้แผนการดังกล่าวต้องพังทลายลง สร้างความเดือดร้อน ความรู้สึกผิดหวังให้ผู้เลี้ยงปลาเป็นอย่างมาก

ซึ่งผู้เลี้ยงปลารายหนึ่งได้พาผู้สื่อข่าวไปดูที่กระชัง พบว่าแต่ละกระชังมีปลาลอยตายเป็นแพ เริ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง โดยแต่ละกระชังจะเลี้ยงปลาประมาณ 800-1,000 ตัว หลายกระชังตายทั้งหมด บางกระชังมีเหลือเพียงเล็กน้อย

นายชำนาญ ชุมประยูร ประธานกลุ่ม และนายสมพงค์ ซังเอียด ประชาสัมพันธ์กลุ่ม บอกว่า น้ำท่วมครั้งนี้ผู้เลี้ยงปลาได้รับผลกระทบทุกเจ้า น้อยบ้าง เยอะบ้าง บางรายก็เสียหาย 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปลาที่เลี้ยงในกระชังจะมีปลานิล ปลาทับทิม ปลากดเหลือง ปลาสวายและปลาดุก ที่เห็นจะเป็นปลานิลขนาดน้ำหนักตัวละประมาณ 1 กก. ปลากดเหลืองขนาด 2-3 ตัว ต่อ 1 กก. ซึ่งจะเลี้ยงกันเป็นรุ่นๆ ไม่พร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถขายได้ตลอดเวลาที่เลี้ยง จะจับปลาขายได้ปีละ 2 รอบ สำหรับปลาที่ตายผู้เลี้ยงส่วนใหญ่จะจับขายในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้


นายสมพงค์ ซังเอียด ประชาสัมพันธ์กลุ่ม บอกเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตัวเองเลี้ยงปลาไว้ 4 กระชัง สามารถจับปลาขายได้รอบละประมาณ 2.5 แสนบาท ซึ่งจะมีกำไร 30 เปอร์เซ็นต์ แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมก็สูญรายได้ทั้งหมด หากคิดความเสียหายโดยรวมทุกเจ้า ประมาณ 6-7 ล้านบาทเลยทีเดียว ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ทางประมงจังหวัดสงขลา ได้ลงพื้นที่อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

ผู้เลี้ยงปลาคนหนึ่งบอกว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าของกระชังไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ปลาที่ตายเป็นเพราะกระแสน้ำที่ไหลแรง มีเศษหญ้ามาติดที่กระชัง ปกติปลาจะว่ายทวนน้ำแต่พอกระแสน้ำแรง และท่วมยาวนานเป็นวันๆ ปลาจะหมดแรงและตาย ในส่วนที่เหลืออาจจะเป็นแผลและจะตายในที่สุด หากถามว่าทำไมรู้ว่าน้ำจะท่วมแล้วไม่จับปลาก่อน เอาจริงๆ น้ำมาเร็วผู้เลี้ยงจับไม่ทัน ส่วนลักษณะน้ำท่วมจนปลาตายในครั้งนี้นับเป็นครั้งใหญ่ในรอบ 14 ปี หลังจากที่เคยสูญเสียจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในปี 2553




กำลังโหลดความคิดเห็น