นราธิวาส - นราธิวาสฝนเริ่มตกทิ้งช่วงทำให้แม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สายค่อยๆ ระบายน้ำลงสู่ทะเล ขณะที่ อ.ระแงะ ยังวิกฤตจากน้ำป่าบนน้ำตกซีโปไหลทะลัก ทหารต้องลงเรือฝ่ากระแสน้ำแจกอาหารที่ชาวบ้านเริ่มขาดแคลน
วันนี้ (30 พ.ย.) ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยภาพรวมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องเริ่มทิ้งช่วงและเบาบางลง ทำให้แม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก มวลน้ำได้มีเวลาค่อยๆ ระบายลงสู่ทะเลด้านปากอ่าว อ.เมืองนราธิวาส และอำเภอตากใบ ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ มีระดับน้ำไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกับในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา แต่ยังมีน้ำท่วมขังและยังถือว่าอยู่ในสภาวะวิกฤต
ขณะที่ในพื้นที่บ้านซีโป ม.3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ เนื่องจากน้ำป่าจากอุทยานน้ำตกซีโป ที่มวลน้ำก้อนใหญ่และมีกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ไหลทะลักลงสู่หมู่บ้านซีโปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้มวลน้ำก้อนนี้ได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เป็นวงกว้าง โดยทาง พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กำลังพลใต้บังคับบัญชา นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ ผ่ากระแสน้ำนำเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม รวมทั้งยาสามัญประจำบ้าน นั่งเรือออกตระเวนแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่ยังสามารถอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้านพัก และชาวบ้านบางส่วนได้อพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพเป็นการชั่วคราวแล้ว
ขณะที่การลงพื้นที่ลาดตระเวนตรวจสอบผลกระทบแนวแม่น้ำโก-ลก ที่ล้นตลิ่งในชุมชนบือเร็ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ของเจ้าหน้าที่นั้นพบว่า ยังคงมีปริมาณท่วมขังบ้านเรือนของประชาชน มีปริมาณน้ำท่วมขังโดยเฉลี่ยสูง 50-80 ซม. และพบเห็นชาวบ้านที่ตกค้างอยู่ในบ้านพัก กำลังขนย้ายข้าวของที่จำเป็นและอพยพครอบครัวออกจากพื้นที่ดังกล่าว และบางส่วนได้เดินลุยน้ำออกไปซื้อหาอาหารกักตุน ที่คาดการณ์ว่าต้องผจญอยู่กับสภาวะน้ำท่วมในอีกระยะหนึ่ง
ส่วนด้านการช่วยเหลือ นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้แจกจ่ายอาหารกล่อง น้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน จำนวน 3 มื้อในทุกวัน ผ่านผู้นำชุมชนที่จะลงเรือพายไปตระเวนแจกจ่ายให้ชาวบ้านอีกทอดหนึ่ง ในการบรรเทาความเดือดร้อนที่มีสภาวะน้ำท่วมขังในครั้งนี้