สุราษฎร์ธานี - เพื่อนสนิท “ป้าติ๋ม” เผยป้าติ๋ม ได้รับทรัพย์สินจากพินัยกรรมแหม่มเจ้าของวิลล่าหรูแล้วบางส่วน ขณะที่วิลล่าหรูหลังที่เกิดเหตุกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุง ด้านป้าติ๋ม เห็นสื่อหลบกล้อง ไม่ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (26 พ.ย.) จากกรณีทางตำรวจได้หอบหลักฐานเข้าแจ้งความตำรวจเกาะสมุย เพื่อดำเนินคดีกับ 2 บริษัท รวมทั้งแหม่มชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าหรูซึ่งฆ่าตัวตาย และทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินประมาณ 100 ล้าน และคนไทยอีก 2 ราย ซึ่งการแจ้งความดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อการมอบทรัพย์ให้ป้าติ๋ม ตามที่พินัยกรรมที่แหม่มระบุไว้
โดยช่วงเย็นวันนี้ (26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวิลล่าหรูหลังที่แหม่มมอบให้ “ป้าติ๋ม” ในตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขอพบกับนางณัฐวลัย หรือป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิทของแหม่มที่เสียชีวิต โดยพบว่า ป้าติ๋ม อยู่ที่วิลล่าดังกล่าว เเต่เมื่อเห็นกล้องของผู้สื่อข่าวได้หลบกล้อง แต่ตะโกนออกมาว่า กำลังปรับปรุงวิลล่า เนื่องจากต้นไม้ได้หักโค่นใส่ และทาสีใหม่ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ
ต่อมาเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเพื่อนคนสนิทของป้าติ๋ม ที่ร้านขายของหลังวัดภูเขาทอง ในตำบลแม่น้ำ และได้พูดคุยกับ น.ส.อุสา (ขอสงวนนามสกุล) โดย น.ส.อุสา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ ป้าติ๋มยังแวะเวียนมาที่ร้านขายของที่ น.ส.อุสา ทุกวัน ซึ่งตอนนี้ป้าติ๋ม ยังทำงานปกติ โดยทำความสะอาดบ้านฝรั่งอยู่แถวบางรักษ์ ในตำบลบ่อผุด ส่วนบ้านที่เกิดเหตุไม่ได้ทำแล้ว หยุดมาตั้งตั้งแต่บอสเสียชีวิต และหลังจากเกิดเหตุ ป้าติ๋ม ยังทำตัวปกติ ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้โอ้อวดเหมือนเป็นคนมีเงินแต่อย่างใด
ส่วนทรัพย์สินตามทึ่ระบุในพินัยกรรม ขณะนี้ ได้บ้าน ได้รถยนต์ ได้เงินสดนิดหน่อย ตามที่บอสเขียนพินัยกรรมไว้ให้ และรถยนต์ได้มีการโอนเป็นชื่อป้าติ๋มแล้ว ถึงแม้มูลค่าทรัพย์สินที่ได้ไม่ถึงร้อยล้านตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วนป้าติ๋มยังอาศัยอยู่ที่บ้านของตัวเอง แถวซอยแม่พระบ้านบ่อผุด ซึ่งจากกระแสข่าวที่ผู้ถือหุ้นเป็นนอมินีหากแกไม่ได้ทรัพย์สินจริงๆ ตนรู้สึกเสียใจแทน น.ส.อุสา เพื่อนสนิทเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
ส่วนในคดี ทาง พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ร่มไทร รองผู้กำกับ สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ให้ดำเนินคดีบริษัทเอกชน 2 แห่ง (บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด และบริษัทแม็กซิเคทจำกัด) ในฐานะนิติบุคคล รวมถึงนางแคทเทอร์รีน โจรี่โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศสซึ่งเสียชีวิตแล้ว
ในข้อหาร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)) เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทย เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
นอกจากนี้ ยังดำเนินคดีนายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี และนางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี อีกด้วย โดย พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ได้มอบสำนวนการสืบสวนและพยานหลักฐานต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว