ตรัง - หนุ่มตรังหันมาเปิดร้านขายขนมทอดหลากชนิด โดยเน้นนำวัตถุดิบการเกษตรของดีในพื้นที่มาใช้ ทั้งกล้วย มัน จำปาดะ โดยเฉพาะสับปะรดทอด ที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่า เพราะกรอบอร่อย กรอบนาน ไม่อมมัน
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่ร้านสมพร สับปะรดทอดต้นตำรับ ตั้งอยู่สามแยกวังตอ ฝั่งถนนพาดรถไฟ ในเขตเทศบาลนครตรัง เปิดเป็นร้านขายขนมทอดหลายชนิด เช่น สับปะรดทอด กล้วยทอด มันทอด ข้าวเม่าทอด กล้วยเล็บมือนางอบน้ำผึ้งทอด กล้วยไข่ทอด และผลไม้ตามฤดูกาลทอด เช่น กล้วยนางพญาทอด จำปาดะทอด เป็นต้น โดยมี นายปกาสิต บุญรอด อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งขายขนมทอดเหล่านี้มาประมาณ 2 ปี แต่เมนูแนะนำและขึ้นชื่อคือ สับปะรดทอด
ทั้งนี้ แรกเริ่มเดิมทีเกิดจากการที่ นายปกาสิต ไปทอดขนมช่วยงานบวช หรืองานบุญต่างๆ ก็ลองเอาสับปะรดไปทอดช่วยงานด้วย โดยไม่ได้ขาย แต่คนได้ชิมก็ชื่นชอบติดใจ จึงปรึกษาพี่สาวๆ และลองเอาสับปะรดมาเป็นเมนูแนะนำของร้าน ผลปรากฏว่า ขายดีมาก ต้องใช้แป้งต่อวันประมาณ 15-18 กก. เฉพาะสับปะรด วันละประมาณ 20 ลูก ซึ่งขนมทอดของร้านสมพร จะแตกต่างจากที่อื่น ตรงที่แป้งกรอบอร่อย กรอบนาน และไม่อมมัน เพราะใช้น้ำมันใหม่ทุกวัน ไม่ใช้น้ำมันซ้ำ จึงสามารถเก็บได้นาน อีกทั้งไม่ได้ใส่สี หรือสารกันบูดอะไรเลย
เฉพาะสับปะรดทอด หากเก็บในถุงที่เป็นซิป หรือภาชนะมิดชิด จะสามารถเก็บได้นานนับสัปดาห์ และไม่มีกลิ่นหืน ขณะที่ข้าวเม่าทอด จะแตกต่างจากร้านอื่นเช่นกัน นั่นคือ เป็นข้าวเม่าไส้กล้วยไข่ ที่ไม่ผสมข้าวเหนียว เมื่อกินจะไม่แฉะ แต่จะหวานนุ่มอร่อย เพราะเป็นข้าวเม่าล้วน ส่วนราคาขายก็ยังคงเดิม ถึงแม้น้ำมันทอดจะแพงขึ้นอย่างมาก นั่นคือ สับปะรดทอด ขีดละ 20 บาท กล้วยเล็บมือนางอบน้ำผึ้งทอด ขีดละ 30 บาท ส่วนของทอดอย่างอื่นจะขายเป็นชุดๆ ละ 20 บาท และข้าวเม่าทอด ขายลูกละ 10 บาท
สำหรับเคล็ดลับการทำขนมทอดให้ขายดี และมีลูกค้าประจำจนเลี้ยงครอบครัวได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ สูตรแป้งต้องเด็ด ต้องใช้น้ำมันใหม่ และต้องใช้วัตถุดิบที่แตกต่างจากร้านอื่น เช่น การที่ในจังหวัดตรังแทบจะไม่มีร้านขายสับปะรดทอดเลย จึงทำให้ไม่มีคู่แข่ง และขายดี ส่วนข้าวเม่าทอด และวัตถุดิบอื่นๆ ที่นำมาทอด เช่น มัน กล้วย จะใช้ของดีจากเกษตรกรในพื้นที่ ทั้งเพื่อช่วยอุดหนุนชาวบ้าน และยังทำให้ของทอดมีรสชาติหวานมัน เพราะเป็นของสดในท้องถิ่น
