สตูล - สาวสตูลร้องสื่อหลังเจอคู่กรณีชนแล้วหนี อ้างตัวเป็นผู้พิพากษาสมทบและสนิทกับแม่ทัพภาคที่ 4 ไม่ยอมรับผิดชอบให้ไปคุยกันที่ศาลเท่านั้น
วานนี้ (29 ต.ค.) น.ส.ณัฎฐณิชา อาลี อายุ 55 ปี ได้ติดต่อเข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า รถตู้ที่ใช้ไปขายของตามตลาดนัดของตน ซึ่งจอดสนิทอยู่หน้าบ้านดังกล่าวที่เตรียมจะไปขายของตอนตี 5 แล้วจู่ๆ เวลาประมาณ 1.10 น. ของวันที่ 26 ต.ค.2567 ขณะเพิ่งกลับจากทำงานไม่นาน ขณะกำลังนั่งดูทีวีภายในบ้านได้ยินเสียงโครมอย่างหนัก จึงรีบออกไปดูพบว่ารถตู้คู่ใจที่ไว้ทำงานของตนได้กระเด็นขึ้นมาเกยบนฟุตปาธ และเห็นรถยนต์เก๋งเบนซ์คันก่อเหตุได้พยายามขับมุ่งหน้าหนีไปในเมือง โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดรถหลังเกิดเหตุ
ทันใดนั้นตนจึงรีบโทร.แจ้ง 191 ให้ช่วยสกัดจับรถคันดังกล่าว ก่อนตำรวจจะไปพบว่ารถคันดังกล่าวไปจอดอยู่ที่อู่แห่งหนึ่งในตัวเมืองสตูล และได้ทำการยึดมาตรวจสอบพร้อมเรียกเจ้าของรถซึ่งเป็นผู้หญิงมาให้ปากคำ โดยระหว่างนั้นเจ้าของรถได้ให้การภาคเสธกับตำรวจ และยืนยันว่าไม่ได้ผิด ไม่ขอชดใช้ค่าเสียหายที่ทางเจ้าทุกข์ได้ให้ช่างประเมินราคาแล้ว 65,000 บาท อ้างเพราะรถตู้จอดผิดที่เอง หากอยากได้ให้ไปคุยกันที่ศาล
นอกจากนี้ ยังได้อ้างตัวกับตนและตำรวจว่า รู้ไหมว่าตนเป็นใคร ตนเป็นผู้พิพากษาสมทบ และรู้จักกับแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเจ้าทุกข์ น.ส.ณัฎฐณิชา อาลี มองว่ามากล่าวอ้างผู้หลักผู้ใหญ่ทำไม เมื่อทำผิดน่าจะต้องรับผิด หรือว่าจะพลิกคดีเพราะรู้จักคนใหญ่คนโต ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย จึงอยากให้สื่อช่วยตามเรื่องนี้เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปตามกฎหมาย แม้ทางตำรวจเองยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.ณัฎฐณิชา อาลี มีความกังวลว่า เขาอาจจะใช้เงินทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่เราต้องการความถูกต้อง เขาจ้างทนายมาเพื่อจะไม่จ่ายค่าชดเชยให้เรา และเขายังอ้างเอาชื่อคนใหญ่คนโตมาพูดว่ารู้จักกันทั้งที่คนที่แอบอ้างไม่รู้เรื่องด้วย นอกจากนั้น ตนไปสืบทราบมาว่าผู้ชนแล้วหนีในวันเกิดเหตุเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง ไม่ทราบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์มาด้วยหรือไม่ อยากให้มีการตรวจสอบแต่ตนมีภาพถ่ายงานเลี้ยงก่อนวันก่อเหตุด้วย
โดยขณะนี้ในทางคดี ร้อยเวร สภ.เมืองสตูล ได้ประสานให้ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจร่องรอยการชนของรถเบนซ์และรถตู้คันเกิดเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานว่าใครผิดใครถูกกันแน่ โดยตำรวจยืนยันว่าคดีนี้จะดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน