พัทลุง - คุณป้าวัย 67 ปี ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อหลังลูกสาวขับรถจักรยานยนต์ชนวัวที่ตัดหน้าจนเสียชีวิต ผ่านมา 2 เดือนคดีไร้ความคืบหน้า สุดท้ายทราบว่าเจ้าของวัวเป็นญาติรองผู้กำกับ
วันนี้ (29 ต.ค.) นางหนูปัตย์ แก้วคง อายุ 67 ปี หรือป้าสม ร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวหลังลูกสาว นางนิตยา แก้วไทย อายุ 43 ปี ขับรถจักรยานยนต์เลิกจากทำงานเพื่อกลับบ้าน มาถึงที่เกิดเหตุบนถนนในหมู่บ้าน ได้มีวัววิ่งตัดหน้าทำให้ชนเข้าอย่างจังจนศีรษะกระแทกพื้น นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทลุง 8 วัน สุดท้ายเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 67 ที่ผ่านมา
โดย ป้าสม ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม วันแรกตำรวจไม่รับแจ้งความ ถัดมาอีก 1 วันไปแจ้งความอีก ตำรวจพยายามบ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งความ ให้เหตุผลว่าลูกสาวขับรถล้มเอง ถามลูกสาวที่บาดเจ็บหรือยังว่าล้มอย่างไร จนไม่ได้แจ้งความอีก และนำรถลูกสาวที่ประสบอุบัติมาเก็บที่บ้าน จนตรวจสอบพบว่าตรงด้านหน้าของรถมีขนของวัวและขี้วัวติดอยู่ ยิ่งทำให้สงสัยว่าลูกสาวไม่ได้ล้มรถเองแต่เกิดจากอุบัติเหตุแน่นอน จึงถ่ายภาพส่งให้ตำรวจและเข้าไปแจ้งความในวันถัดมา พนักงานสอบสวนจึงรับแจ้งความ
จนกระทั่งลูกสาวเสียชีวิตในวันที่ 14 ส.ค.67 ขณะที่บำเพ็ญงานศพที่วัด ทางรองผู้กำกับ สภ.ป่าพะยอม เข้าไปพูดคุยว่า ป้าสมใจเย็นๆ นะ รอให้เสร็จงานก่อน แล้วทางตำรวจจะเรียกพบ เวลาผ่านไปอีกหลายวันพนักงานสอบสวนไม่เรียกพบ จนกระทั่งป้าได้ไปหาที่โรงพัก พนักงานสอบสวนบอกว่ารับแจ้งความไปแล้ว ก่อนไปหาผู้กำกับว่าคดีคืบหน้าถึงไหนแล้ว ทางผู้กำกับบอกให้ไปติดต่อรองผู้กำกับว่าคดีไปถึงไหนแล้ว รองผู้กำกับบอกว่าใจเย็นให้รอ ก่อนเดินทางกลับบ้าน
ต่อมาอีกหลายวันทางพนักงานสอบสวนบอกว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุ ทางพิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบแล้ว ป้าก็ดีใจหลังทราบข่าว หลังจากนั้นได้นั่งรถโดยสารออกจากบ้าน เพื่อไปยังกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุงว่าผลการตรวจรถจักรยานยนต์เป็นอย่างไร ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานบอกยังไม่ทราบเรื่องเลย ทางพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม ยังไม่ส่งเรื่องมา ป้าเลยโทร.ถามพนักงานสอบสวนและรองผู้กำกับว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ทางตำรวจยืนยันว่ามาแล้ว สุดท้ายถามไปถามมาตำรวจพิสูจน์หลักฐานบอกยังไม่มีการแจ้งเข้ามาไม่สามารถตรวจสอบได้ ต่อมาทางรองผู้กำกับและพนักงานสอบสวนบอกยังเลยป้าสม ที่ลงมาตรวจนั้นเป็นกรณีอื่น จนล่าสุดวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงมาตรวจสอบ ผลพิสูจน์ออกมาว่ารถเกิดจากการเฉี่ยวชน
โดยป้าสม บอกว่า ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาป้าทุกข์ใจมาตลอด พยายามหาหลักฐานในวันเกิดเหตุ จนได้มาบางส่วน ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เจ้าหน้าที่ศูนย์ที่เป็นหญิง 2 คน บอกเรื่องเพิ่งเกิดไม่กี่เดือนป้าจะรีบไปไหน ตำรวจเขามีงานเยอะไม่มีเวลาทำให้ป้าหรอกตอนนี้ ทำให้ยิ่งคับแค้นใจและทุกข์ใจขึ้นมาอีก เมื่อมาพึ่งเจ้าหน้าที่รัฐแต่กลับได้คำตอบแบบนี้
ป้าสม ยังกล่าวอีกว่า หลังเผาศพลูกสาววันนี้ยังไม่ได้เก็บอัฐิและทำบุญให้ลูกเลย เนื่องจากเชื่อว่าคดีนี้ลูกสาวยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากอบุติเหตุ เจ้าของวัวไม่ออกมารับผิดชอบ พยายามสอบถามตำรวจมาตลอด และสุดท้ายรู้ว่าที่คดีไม่คืบหน้าเพราะเจ้าของวัวที่ลูกสาวชนจนเสียชีวิตนั้น เป็นญาติกับรองผู้กำกับ สภ.ป่าพะยอม
ขณะที่เพื่อนบ้านกล่าวว่า คดีนี้ถ้าตำรวจทำไปตามความเป็นจริงจะไม่ยาก แต่เพราะวัวที่ชนนั้นเป็นญาติรองผู้กำกับ ทำให้คดีไม่คืบและไม่เป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อดูจุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยพบว่าใกล้จุดเกิดเหตุมีคอกวัวชาวบ้านอยู่เพียง 1 คอก มีวัวหลายตัว และต่อมาเจ้าของวัวเดินมาถามว่ามาทำไม เหตุเกิดหลายเดือนแล้ว นักข่าวมาทำข่าวได้เหรอ ผู้สื่อข่าวได้ตอบกลับไปว่าไม่ได้มาว่าวัวใครที่ชนจนทำให้มีผู้เสียชีวิต แค่มาดูความจริงในวันที่เกิด ป้าเจ้าของวัวพยายามบอกว่า คนขับรถจักรยานยนต์ขับรถล้มเอง ผู้สื่อข่าวก็พยายามอธิบายว่าตามหลักฐาน กับคำบอกเล่าและผลพิสูจน์เท่านั้นคือความจริง