xs
xsm
sm
md
lg

ภูเก็ตจัด “ทอดผ้าป่าฉายแสง” หารายได้สร้างอาคาร “รังสีรักษา” ตั้งเป้าเปิดใช้เฟสแรกปี 69

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต เดินหน้าสร้างอาคารศูนย์ “รังสีรักษา” โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จัด “ทอดผ้าป่าฉายแสง” หารายได้สร้างอาคาร คาดเปิดใช้ปี 69 เพิ่มโอกาสรอดให้ผู้ป่วยโรงมะเร็ง ถ้าสร้างเสร็จจะเป็นศูนย์แรกในอันดามัน


วันนี้ (28 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมการพัฒนาโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ประธานฝ่ายฆราวาส จัดทอดผ้าป่าฉายแสง และนายสมชัย จิรายุส ประธานมูลนิธิน้อมเกล้า นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการทอดผ้าป่าฉายแสง ซึ่งจัดขึ้นโดยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มูลนิธิน้อมเกล้า และคณะกรรมการพัฒนาโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อจัดหาทุน 290 ล้านบาท ในการสร้างอาคารรังสีรักษา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ใช้ในการฉายแสงรักษามะเร็ง เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยมะเร็ง โดยจะจัดกิจกรรมดังกล่าวในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

สำหรับการสร้างอาคารรังสีรักษา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นั้นจะสร้างเป็นอาคาร 6 ชั้น ประกอบด้วย แผนกรังสีรักษา เวชศาสตร์นิวเคลียร์ ห้องให้ยาเคมีบำบัด และแผนกผู้ป่วยใน พื้นที่รวมประมาณ 9,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดินบริจาคจากนายคณิต ยงสกุล เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ริมถนนประชาอุทิศ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต อยู่ห่างจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 4 กิโลเมตร โดยขณะนี้มีการออกแบบอาคารไว้แล้ว โดยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตสนับสนุนงบ


นอกจากนั้น ยังมีภาครัฐและอกชนร่วมสนับสนุนด้วยส่วนหนึ่ง เช่น วันนี้ (28 ต.ค.) โรงแรมในเครือบียอนกะตะกรุ๊ป บริจาค จำนวน 5 ล้านบาท บริษัท ANDAFOCUS บริจาค 30,000 บาท นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ ครอบครัวจิรายุส และบริษัท เมอร์ลิน กรุ๊ป บริจาค จำนวน 10,000,000 บาท ให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อสมทบทุนสร้างศูนย์มะเร็งแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต “อาคารรังสีรักษา”

จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมมอบชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วยมะเร็ง ด้วยการบริจาคสมทบทุนสร้างอาคารรังสีรักษา ได้ทางบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “เงินบริจาคเพื่ออาคารรังสีรักษา โรงพยาบาลชิระภูเก็ต” เลขที่ 805 3 11019 3 ทั้งนี้ เงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า


นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส กล่าวว่า “จังหวัดภูเก็ต ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม จังหวัดชัยภูมิ รับเป็นองค์อุปถัมป์ในการทอดผ้าป่าครั้งนี้ โดยหลวงพ่อสายทอง ท่านเป็นพระที่มีบารมีสูง ท่านสร้างอาคารให้หลายโรงพยาบาล รวมทั้งโรงเรียนต่างๆ การทอดผ้าป่าเป็นช่องทางหนึ่งในการหาทุนเท่านั้น ในเมื่อโรงพยาบาลดูแลรักษาผู้ป่วยทุกคนโดยไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา ผมขอเชิญชวนให้ทุกท่าน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ร่วมทำความดี บริจาคเงินสมทบทุนสร้างอาคารรังสีรักษา”

ขณะที่นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมการพัฒนาโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวว่า “การจัดทอดผ้าป่าจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากชาวภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงร่วมกันบริจาค ค่าก่อสร้างอาคาร 290 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 เฟส เราต้องการอย่างน้อย 150 ล้านบาท ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพื่อที่จะได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างเฟสแรกได้ก่อน ซึ่งตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การก่อสร้างอาคารเฟสแรกจะใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท และ สร้างให้เสร็จ และจะฉายแสงแรกให้ได้ในวันที่ 9 เดือนกันยายน 2569 เพื่อคนภูเก็ต พังงา และกระบี่ จะได้มีสถานที่รักษาผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างครบวงจร ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไกลในการไปรักษาที่จังหวัดอื่น ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่ อันดามันไม่มีศูนย์รังสีรักษาแม้แต่แห่งเดียว การรักษาผู้ป่วยจะต้องเดินทางไปรักษาในพื้นที่ฝั่งอ่าวไทย ซึ่งภาคใต้มีแค่ 3 แห่งเท่านั้น


นายสมชัย จิรายุส ประธานมูลนิธิน้อมเกล้า กล่าวว่า จากที่มูลนิธิน้อมเกล้า โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้เปิดตัวมูลนิธิ และจุดเทียนเล่มแรกในการรณรงค์สร้างความตระหนักของคนในภูเก็ต ถึงความสำคัญของการมีศูนย์รักษามะเร็งฝั่งอันดามัน ที่ภูเก็ต ด้วยการจัดกิจกรรมวิ่งฉายแสง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้กระแสตอบรับดีมาก มีผู้เข้าร่วมประมาณ 4,000 คน ได้เงินบริจาคตั้งต้นมอบให้โรงพยาบาล 7 ล้านบาทเศษ และได้มีผู้บริจาคเพิ่มเติม แต่ยังขาดทุนทรัพย์อีกมากในการสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ บนที่ดิน 5 ไร่ ริมถนนประชาอุทิศ ที่ได้รับบริจาคจาก คุณคณิต ยงสกุล

ดังนั้น โครงการผ้าป่าฉายแสง เป็นอีกหนึ่งโครงการของมูลนิธิน้อมเกล้า ที่จะระดมเงินทุนเพื่อสร้างอาคารรังสีรักษา (ศูนย์มะเร็งภูเก็ต) ให้สำเร็จ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งได้รับความสะดวกในการรักษาและฟื้นจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น


ขณะที่นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า “ปัจจุบัน โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตรับผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต พังงา และ กระบี่ ประมาณหนึ่งพันราย/ปี โดยที่ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยดังกล่าว คือ ประมาณ 500 ราย ต้องได้รับการรักษาโดยการฉายแสง แต่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตสามารถรักษาได้ด้วยการให้ยาเคมีบำบัด และการผ่าตัดเท่านั้น หากจะรักษาด้วยการฉายแสง จะต้องส่งไปฉายแสงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา หรือกรุงเทพมหานคร แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง สามารถเบิกจ่ายได้ตามสิทธิการรักษาจากกองทุนต่างๆ แต่สิ่งที่ผู้ป่วยและครอบครัวจะต้องรับผิดชอบเอง คือ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และอาหาร เป็นต้น ผู้ป่วยหลายรายที่ครอบครัวมีข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจ จึงยอมทิ้งโอกาสที่จะรักษาต่อด้วยการฉายแสง ซึ่งหมายความถึงการทิ้งโอกาสที่จะหายจากโรค และความทุกข์ทรมานจากโรค


ทางกระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลรักษาโรคมะเร็งแบบครบวงจร จึงได้สนับสนุนงบประมาณปี 2568 ให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในการจัดซื้อเครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงแบบสี่มิติ 1 เครื่อง มูลค่า 120 ล้านบาท และ เครื่องจำลองและวางแผนการรักษา 1 เครื่อง มูลค่า 32 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน แต่การที่จะติดตั้งเครื่องฉายรังสีได้ จำเป็นที่จะต้องมีอาคารที่ออกแบบเฉพาะตามมาตรฐาน โดยในปัจจุบัน ในโรงพยาบาลไม่มีพื้นที่ที่จะสร้างอาคารได้


จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างอาคารรังสีรักษาบนที่ดินบริจาคนอกโรงพยาบาล และต้องสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2569 เพื่อรองรับเครื่องมือดังกล่าว ด้วยข้อจำกัดที่เรามีระยะเวลาในการก่อสร้างอาคารเฟสแรก เพียง 15 เดือนเท่านั้น จึงเป็นความท้าทายที่จะต้องเร่งหาทุนในการสร้างอาคารเฟสแรก 150 ล้านบาทให้ได้ก่อนภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มิฉะนั้น โรงพยาบาลจะไม่สามารถลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2568 ได้ และอาคารจะเสร็จไม่ทันเดือนมิถุนายน 2569 หากติดตั้งเครื่อง ทดสอบระบบ และเบิกจ่ายเงินงบประมาณไม่ทันภายใน 30 กันยายน 2569 โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตต้องส่งคืนงบประมาณดังกล่าว เมื่อไม่มีเครื่องฉายแสง ผู้ป่วยมะเร็งที่จะรักษาด้วยการฉายแสงก็ยังคงลำบากเช่นเดิม”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โทร.0-7636-1234 ต่อ 0


กำลังโหลดความคิดเห็น