ตรัง - เกษตรกรชาวตรังปลูกข่าตาแดงในร่องสวนยางพารา สร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ แถมยังดูแลง่าย และขายได้ราคาดีเพราะใช้เป็นส่วนผสมในการทำอาหารไทยหลากหลายเมนู
วันนี้ (28 ต.ค.) ภายในสวนยางพารา เนื้อที่ 2 ไร่ ของ นางบังอร ยังช่วย เกษตรกรชาวตำบลนาโยงใต้ อ.เมืองตรัง ซึ่งได้ปลูกข่าตาแดงในร่องสวนยางพารา ที่สามารถสร้างรายได้ให้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และยังขายได้ราคาดีตกกิโลกรัมละ 50-70 บาท ยิ่งเป็นช่วงหน้าแล้งจะขายได้ราคาดี เพราะใช้เป็นส่วนผสมในการทำอาหารไทยหลากหลายเมนู มีตลาดรองรับตลอดทั้งปี อีกทั้งข่าตาแดงยังลงทุนปลูกแค่ครั้งเดียว แต่สามารถให้ผลผลิตได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ปี รวมทั้งยังเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องรดน้ำ และไม่ค่อยมีโรครบกวน เพียงใส่แค่ปุ๋ยคอก หรือดูแลแบบออแกนิกเท่านั้น
นางบังอร ยังช่วย กล่าวว่า ตนปลูกข่าตาแดงมา 6 ปีแล้ว โดยใช้พื้นที่ว่างร่องสวนยาง เป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า และเป็นการสร้างรายได้เสริม แต่หากมองจริงๆ ถือว่าเป็นรายได้หลักก็ว่าได้ เพราะสามารถเก็บผลผลิตได้ทุกวัน แต่ตนเลือกเก็บแบบวันเว้นวัน ได้ผลผลิตต่อครั้งประมาณ 10-20 กิโลกรัม ขายให้แม่ค้าที่มารับซื้อถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท โดยช่วงหน้าแล้งราคาจะดีตกกิโลกรัมละ 70 บาท หรือบางปี 75 บาท เพราะข่าตาแดงเป็นที่ต้องการของตลาด และใช้ทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น แกงหมู-เนื้อใส่ข่า แกงคั่วกลิ้ง ต้มข่าไก่ ใส่ต้มยำต้มแซ่บ ลวกจิ้มน้ำพริก
สำหรับข่าตาแดงที่ตนขุุดได้ในแต่ะครั้งจะนำมาตัดใบและลอกกาบแข็งออก แล้วล้างทำความสะอาดและตัดแต่งให้สวยงาม ก่อนส่งขายให้แม่ค้า ซึ่งข่าตาแดงเป็นพืชที่ดูแลง่าย แต่ต้องหมั่นตัดแต่งกอข่าไม่ให้แน่นเกินไป เพราะหากในกอมีต้นข่าเยอะจะเสี่ยงที่พวกหนอนหรือหนอนผีเสื้อจะมาเจาะกิน นอกจากนั้น ตนยังใช้พื้นที่ข้างบ้านอีกประมาณ 1 ไร่ ปลูกผักเหมียงและกล้วยชนิดต่างๆ ไว้จำหน่ายอีกด้วย โดยการปลูกพืชแบบนี้จะทำให้มีรายได้เข้าครอบครัวทุกวัน ซึ่งเกษตรกรที่สนใจสั่งซื้อข่าตาแดง สอบถามเพิ่มเติมได้ทางโทรศัพท์ 08-1362-2735