ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต เดินหน้าปรับแผนพัฒนาการท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้การท่องเที่ยวภูเก็ต หวังดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าพื้นที่ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ครึ่งปีหลังจาก 4.2 แสนล้าน เป็น 5 แสนล้าน
จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่สร้างรายได้ให้ประเทศในแต่ละปีมีจำนวนมหาศาล เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทาง แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจังหวัดภูเก็ตจะเป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกอยู่แล้ว ยังจะต้องพัฒนาเพื่อให้เป็นเมืองที่มีศักยภาพมากขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองที่มีศักยภาพหลากหลาย โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่ง สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การขนส่ง และ ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งชายฝั่งทะเลอันดามัน ดังนั้น เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของเมืองภูเก็ต ทาง อบจ.ภูเก็ต มีแผนที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มการใช้จ่ายต่อคน และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวครึ่งปีหลังจาก 4.2 แสนล้าน เป็น 5 แสนล้านบาท
โดยขณะนี้ทาง อบจ.ภูเก็ต ได้ดำเนินการพัฒนาเมืองในรูปแบบต่างๆ หลายโครงการด้วยกัน เช่น แผนการพัฒนาและปรับปรุงท่าท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ที่อยู่ในการดูแลของ อบจ.ภูเก็ต ด้วยการจะยกระดับเป็นท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) ใช้ระบบ AI คัดกรองผู้โดยสาร จัดระเบียบการจราจรบนสะพาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ เพื่อความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวทางทะเลของนักท่องเที่ยวที่แต่ละวันจะใช้บริการท่าเรือดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งการให้บริการบริเวณท่าเรือมีมาตรฐาน และ ปลอดภัยในระดับสากล
นอกจากนั้น ยังมีโครงการการพลิกโฉมการขนส่ง แก้ปัญหารถติดสะสมในตัวเมือง โดย ดำเนินโครงการนำรถ EV มาใช้แทนรถโพถ้อง สีชมพู ของทาง อบจ.ภูเก็ต ที่ให้บริการมานานกว่า 10 ปี จำนวน 24 คัน โดยให้บริการใน 3 เส้นทาง บวก 1 เส้นทาง ประกอบด้วย สายที่ 1 สายสีเหลือง เริ่มต้นที่สะพานหิน ไปสิ้นสุดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลภูเก็ต ระยะทาง 11 กิโลเมตร สายที่ 2 ท่าเรืออ่าวฉลอง-ห้างซุปเปอร์ซีป หรือสายสีแดง ระยะทาง 18 กิโลเมตร สายที่ 3 ท่าเทียบเรือรัษฎา-สวนน้ำอันดามันดา หรือสายสีเขียว ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ทั้งนี้ ได้ปรับให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ท่าเรือ โรงเรียน ชุมชน ย่านการค้า ย่านเมืองเก่ามากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ทั้งคนภูเก็ต และนักท่องเที่ยว คนไทย และต่างชาติ 1 คัน รองรับผู้โดยสารได้ 21 คน ตั้งเป้าทดลองวิ่งเดือนต้นธันวาคมปีนี้ นอกจากนั้น ทาง อบจ.มีแผนที่จะทำเพิ่มอีก 1 เส้นทาง คือ เส้น สนามบิน-หาดราไวย์ รวมระยะทางประมาณ 47 กิโลเมตร
นอกจากนั้น ทาง อบจ.ยังได้ดำเนินการในเรื่องของการสร้างปอดแห่งใหม่ให้คนภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้รับมอบที่ดินเรือนจำเก่าจากธนารักษ์ พื้นที่ประมาณ 33 ไร่ โดยทาง อบจ.ได้ออกแบบสถานที่ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย โดยปรับให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมืองภูเก็ต เพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ จิตใจให้ชาวภูเก็ต เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งเป็นสถานที่ออกกำลังกาย โดยใช้งบประมาณ 169.5 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นสถานที่จอดรถสาธารณะอีก 300 คัน เพื่อรองรับรถประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มาท่องเที่ยวยังย่านเมืองเก่าภูเก็ต รวมทั้งแก้ปัญหารถติดในตัวเมือง
อย่างไรก็ตาม ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการและจัดให้มีการออกแบบสวนสาธารณะอีก 1 โครงการ คือโครงการออกแบบพัฒนาพื้นที่อนุสรณ์สถานถลางชนะศึก เนื้อที่เกือบ 100 ไร่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และสวนสาธารณะแห่งใหม่ของภูเก็ต สวนสวนสาธารณะที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ผ่านสถานการณ์ปัจจุบันและสร้างวิสัยทัศน์ของเมืองในอนาคต โดยออกแบบพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัตศาสตร์ และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ทางสังคม ทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
มีทั้ง พิพิธภัณฑ์เรื่องราวประวัติศาสตร์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และผู้กล้าเมืองถลาง ทั้งภายในอาคารและเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก ลานวัฒนธรรม ตลาดวัฒนธรรม ลานจัดงานแสงสีเสียง อัฒจันทร์กลางแจ้ง ที่นั่งพักผ่อนริมน้ำ รวมไปถึงสวนสาธารณะ เป็นปอดของประชาชนในพื้นที่ถลาง ที่ออกแบบให้มีทางเดินยกระดับ ทางเดินลอยฟ้า ลานออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานออกกำลังกายกลางแจ้ง เป็นต้น
