ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เหยื่อดิไอคอนสงขลาเข้าร้องสื่อ เปิดบิลไปกว่า 250,000 บาท จากโฆษณาคอร์สขายของออนไลน์ 98 บาท ได้สินค้า 10 ลังพังไม่เป็นท่า เข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้บริหารพร้อมพวกให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
วันนี้ (18 ต.ค.) ยังคงมีผู้เสียหายจากการลงทุนกับดิไอคอนเป็นแสน แต่ขายของไม่ได้สักบาทออกมาแจ้งความและร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ จ.สงขลา น.ส.ณภรวนิณล์ ชรัญปัญญาวัจน์ หรือคุณแคท อายุ 40 ปี เจ้าของร้านทำเล็บซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายและได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.บางกล่ำ ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อมวลชนว่าเธอเป็นหนึ่งในเหยื่อดิไอคอนกรุ๊ป ที่เปิดบิลไปกว่า 250,000 บาท จากเงินเก็บที่ทำงานสะสมมาแต่ขายสินค้าไม่ได้เลยจนหมดอายุต้องเททิ้ง
น.ส.ณภรวนิณล์ เล่าว่า ไทม์ไลน์รูปแบบการลงทุนเหมือนกับผู้เสียหายทุกคน คือ ชักชวนให้เปิดบิล โดยตัวเธอหวังจะเป็นร้านค้ารายใหญ่กับบริษัท หรือดีลเลอร์ แต่ทุกอย่างก็พัง เงินที่เก็บสะสมมาเกลี้ยงไม่เหลือ ตัวเธอเริ่มเข้าร่วมเมื่อช่วงปี 64 ซึ่งเป็นช่วงโควิดอยากขายของออนไลน์เริ่มจากเห็นโฆษณาคอร์สสอนออนไลน์ เป็นการสอนเปิดเพจยิงแอดขายสินค้าออนไลน์ของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จ่ายเพียง 98 บาทเท่านั้น จึงสนใจเข้าเรียน
โดยใช้เวลาเรียน 3 วัน ผ่านแอปพลิเคชั่ฝน Zoom วันแรก คุณบ๊อบ หรือแม่บ๊อบยานแม่ มาสอนวิธีการสร้างเพจในเฟซบุ๊กเบื้องต้น วันที่ 2 บอสวิน ธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ มาสอนยิงแอดในเฟซบุ๊ก และวันที่ 3 บอสสวย นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ ออกมาพูดถึงประวัติตัวเอง และประวัติคนที่เคยได้เรียนออนไลน์กับตัวเอง จนประสบความสำเร็จในชีวิต มีเงินปลดหนี้ มีเงินซื้อบ้านหลังใหญ่ มีเงินซื้อรถเบนซ์ ซูเปอร์คาร์ และได้พูดถึงการประสบคว่มสำเร็จของคนอื่นๆ อีกมากมายภายในระยะเวลาแค่ 1-2 ปี โดยเน้นให้เปิดบิลเป็นดีลเลอร์หรือตัวแทนร้านค้ารายใหญ่กับบริษัท และมีการนำดาราที่มีชื่อเสียงมาเชิญชวนจนเหลือเชื่อ
เมื่อได้ฟังตนจึงตัดสินใจโอนเงินลงทุนกับ บริษัท ดีไอคอนกรุ๊ป ไปเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2564 จำนวน 259,640 บาท แล้วมีแม่ทีมทักไลน์มาหาเพื่อดูแล และบริษัทได้ส่งสินค้า Boom คอลลาเจน มาให้จำนวน 10 หลังใหญ่ โดยมีสินค้ากล่องเล็กอยู่ด้านในกล่องใหญ่ 50 กล่อง และแม่ทีมบอกให้เรายิงแอดเพื่อขายสินค้าแต่ต้องจ่ายเอง
เริ่มจากยิงแอดวันละ 500 ถึง 1,000 บาท ก็ไม่ประสบความสำเร็จ พอทักไปทางในทีมบอกให้จ้างบริษัทยิงแอดแต่ต้องจ่ายวันละ 2,500 ถึง 3,000 บาท ซึ่งตนไม่มีเงินจ่ายขนาดนั้น แถมบริษัทยังยิงแอดมาแข่ง วันละ 10,000 บาทด้วย เพื่อแข่งกับทุกคนในทีม ทำให้เธอไม่สามารถขายสินค้าได้เลยสักชิ้น ทักหาแม่ทีมก็บอกแต่ให้ยิงแอด และมีการส่งโฆษณาชวนเชื่อมาให้เราลงทุนเปิดบิลส่วนอื่นเพิ่มอีก ทั้งที่เรายังขายของไม่ได้เลยสักชิ้น และชวนให้จ่ายค่าบัตรเพื่อไปปาร์ตี้กับบริษัทอีก 3,000 บาทต่อคน สุดท้ายสินค้าหมดอายุต้องเททิ้ง
“บริษัทไม่สนใจคนที่ลงทุนเลยว่าจะขายสินค้าได้ไหม จึงรู้ว่าบริษัทนี้ไม่ได้เน้นขายสินค้า เน้นหาคนมาต่อเข้าทีมโดยเอาสินค้าบังหน้า หลอกลวงชวนคนมาจ่ายเงินลงทุนเปิดบิลเท่านั้น แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้ จนเรื่องราวกลายเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมา จึงได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้บริหารพร้อมพวกให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด” น.ส.ณภรวนิณล์ กล่าว
