กระบี่ - รมช.คมนาคมสั่งการสนามบินกระบี่ เตรียมพร้อมรับเที่ยวบินช่วงไฮซีซัน คาดผู้โดยสารเพิ่มกว่า 60% มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้เดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ประชุมแผนพัฒนาทำอากาศยานนานาชาติกระบี่ และติดตามความคืบหน้าการขอใบรับรองสนามบินสาธารณะและติดตามคุณภาพการให้บริการ ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2567
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานกระบี่ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรองรับเที่ยวบินในช่วงไฮซีซัน การท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามัน หลังได้รับรายงานจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า กำหนดการบินประจำฤดูหนาว ปี 2567/2568 (ช่วงไฮซีซัน) มีสายการบินขอทำการบิน ณ ท่าอากาศยานกระบี่ แบบเที่ยวบินประจำภายในประเทศมากกว่า 160 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า 60 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และเที่ยวบินเช่าเหมาลำมากกว่า 90 เที่ยวบิน/สัปดาห์
โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารในช่วงไฮซีซันเพิ่มขึ้นกว่า 60% ในช่วงเดือนตุลาคม 2567-มีนาคม 2568 โดยให้วางแผนรองรับการให้บริการเที่ยวบินและผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มมากขึ้น 1.จัดบุคลากรอำนวยความสะดวกในจุดต่างๆ ให้เพียงพอกับจำนวนผู้ใช้บริการ 2.ตรวจเช็กสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน 3.ประชาสัมพันธ์การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการ check-in ล่วงหน้าผ่าน Application ต่างๆ การใช้เอกสารยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Application Thai ID รวมถึงแนะนำวิธีการใช้ระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่องด้วยตนเอง (CUPPS) 4.เพิ่มจุดเช็กอินจาก 14 จุด เป็น 16 จุดแก่ผู้ใช้บริการ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ช่วยลดความแออัดของผู้โดยสาร และ 5.จัดเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการขนส่งสาธารณะภายในท่าอากาศยาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างไร้รอยต่อ
นางมนพร กล่าวต่อว่า จังหวัดกระบี่เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย จึงมีความตั้งใจที่จะพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของภูมิภาคอันดามัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริการที่ได้มาตรฐานสากล การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสาร การดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ ที่เน้นการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งทางบก น้ำ และอากาศ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและรองรับการเติบโตของธุรกิจการการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่และจังหวัดอื่นๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่แล้ว ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจท้องถิ่นอีกด้วย
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีสายการบินที่ขอทำการบิน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ แบบเที่ยวบินประจำเส้นทางภายในประเทศ 6 สายการบิน ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยเวียตเจ็ท ไทยไลออนแอร์ นกแอร์ และการบินไทย เที่ยวบินประจำระหว่างประเทศ 5 สายการบิน ได้แก่ Flydubai, Scoot Tigerair และ Malindo Air ส่วนเที่ยวบินเช่าเหมาระหว่างประเทศ 2 สายการบินเดิม คือ TUI fly และ LOT Polish Airlines และสายการบินใหม่ คือ NEOS ในเส้นทางปราก-กระบี่-ปราก
กรมท่าอากาศยานคาดการณ์ว่า 3 เดือนแรกของช่วงไฮซีซัน ท่าอากาศยานกระบี่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มในเดือนตุลาคมมากกว่า 60% เดือนพฤศจิกายนเพิ่มมากกว่า 30% และเดือนธันวาคมเพิ่มมากกว่า 20% ซึ่งท่าอากาศยานกระบี่พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายและข้อสั่งการในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อไป