ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สิ้นสุดแล้วประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ตปี 2567 ศาลเจ้าต่างๆ ได้ประกอบพิธีส่งพระ เสียงประทัดนับล้านๆ นัดดังกึกก้องทั่วทั้งเกาะภูเก็ต ส่วนปีหน้า 21-29 ต.ค.68 ด้าน ททท.เผยท่องเที่ยวคึกคักมาก อัตราเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 90% เงินสะพัดกว่า 15,000 ล้าน
สิ้นสุดแล้วสำหรับประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต ประจำปี 2567 เมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2567 ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 3-11 ต.ค.67 ศาลเจ้าต่างๆ ที่เข้าร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้จัดให้มีการประกอบพิธีส่งพระ โดยขบวนพระของแต่ละศาลเจ้าได้เคลื่อนไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองภูเก็ต มุ่งหน้าสู่ปลายแหลมสะพานหิน เพื่อไปประกอบพิธีส่งองค์ยกฮ่องซ่งเต่า (พระอิศวร) และองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ (องค์เก้าราชัน) ซึ่งถือว่าเป็นเทพสูงสุดของการถือศีลกินผักกลับสู่สรวงสวรรค์
ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระแห่ผ่าน มีประชาชนชาวภูเก็ต นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติออกมาร่วมพิธีส่งพระกันอย่างเนืองแน่นจำนวนหลายหมื่นคน รวมทั้งร่วมกันจุดประทัดจำนวนนับล้านนัด ทำให้บรรยากาศในคืนส่งพระดังกึกก้องไปด้วยเสียงประทัดที่มีการจุดกันไม่ขาดสาย เมืองภูเก็ตถูกปกคลุมไปด้วยเสียง และควันจากประทัด เนื่องจากผู้ที่มาร่วมพิธีส่งพระได้มีการจุดประทัดใส่ม้าทรง และองค์พระต่อเนื่องตลอดเวลา
สำหรับพิธีส่งพระจะประกอบพิธีในคืนสุดท้ายของประเพณี โดยจะมีการส่งองค์ยกฮ่องซ่งเต่ (พระอิศวร) ซึ่งมักส่งกันที่หน้าเสาโกเต้ง ช่วงเวลา 22.30 น. เพื่อกลับสวรรค์ หลังจากนั้นจะส่งองค์กิ๊วฮ๋องไต่เต่ ซึ่งส่วนใหญ่จะไปประกอบพิธีที่ชายทะเลปลายแหลมสะพานหิน เมื่อขบวนส่งพระออกพ้นประตู ไฟทุกดวงในศาลเจ้าต้องดับสนิท และปิดประตูใหญ่
ส่วนการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2568 ได้มีการกำหนดแล้วเช่นกัน โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-29 ตุลาคม 2568 และในวันที่ 12 ต.ค.67 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป แต่ละศาลเจ้าจะมีการประกอบพิธีลงเสาโก้เต้ง เพื่อเป็นการสิ้นสุดการถือศีลกินผักในปีนี้
ด้าน นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยถึงภาพการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงประเพณีถือศีลกินผักที่ผ่านมา ในช่วงดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 400,000 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 100,000 คน และชาวต่างชาติ 300,000 คน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นมาเลเซียและสิงคโปร์ ทำให้อัตราเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 80-90% จากห้องพักทั้งหมดในภูเก็ตกว่า 100,000 ห้อง มีเงินสะพัดกว่า 15,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภูเก็ตใกล้จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ในช่วงปลายปีถึงต้นปี ซึ่งจากการสอบถามไปยังโรงแรมต่างๆ พบว่ามีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและรัสเซียเริ่มทำการจองที่พักเข้ามาเป็นจำนวนมาก คาดการณ์ว่าภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 13 ล้านคนอย่างแน่นอน
