ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สุดปัง! “กินผักภูเก็ต” รายได้สะพัดกว่า 15,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวแห่เข้าจองห้องพักแล้ว 77% ขณะห้องพักตามเส้นทางแห่พระเต็ม ล่าสุด “ประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต” คว้า Grand Pinnacle Award จากสมาคม IFEA
เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นประจำทุกปีที่ในช่วงดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมประเพณีจำนวนมาก นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอยู่ในระดับดี แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน เนื่องจากช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก 9 วัน
จากการสอบถามกลุ่มตัวอย่างโรงแรมจำนวนร้อยละ 30 ของแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 111,427 ห้อง จากจำนวนโรงแรม 2,069 แห่ง พบว่าในช่วงดังกล่าว มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยกว่าร้อยละ 77 คืนพักเฉลี่ยของโรงแรม 4.35 คืน มีจำนวนนักท่องเที่วประมาณ 450,000 คน และรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 15,000 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจะมีอัตราการใช้จ่ายต่อคนต่อวันประมาณ 8,400 บาท
และเนื่องจากในช่วงถือศีลกินผักปีนี้ตรงกับวันชาติจีนทำให้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาสูงถึงวันละ 3,300-3,400 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาก่อนหน้านี้อยู่ที่วันละประมาณ 1,400-1,500 คน ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของภูเก็ต นอกจากนี้ ยังมีการจองเข้ามาของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และสิงคโปร์อีกด้วย
สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักๆ ที่เดินทางเข้ามาที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย ไต้หวัน จีน สิงคโปร์ และคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะจองที่พักในตัวเมือง ใกล้กับเส้นทางของพิธีอิ้วเก้ง หรือพิธีแห่พระ เพื่อสะดวกต่อการมายืนชมขบวนแห่พระ และในคืนสุดท้ายของการจัดงานจะมีพิธีส่งพระ ซึ่งปีที่ผ่านมามีภาพที่เผยแพร่ออกไปกับการจุดประทัดจำนวนมากในการส่งพระ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องการมาสัมผัสด้วยตนเอง
และเพื่อให้การเข้าร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักของนักท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความสะดวก ทาง ททท.ภูเก็ต ได้ผลิต E-โบรชัวร์สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ phuketemagazine.com เพื่อวางแผนในการเดินทางและสามารถดูพิกัดของศาลเจ้าทั้ง 39 ศาลเจ้าทั่วเกาะภูเก็ต ที่จัดงานประเพณีถือศีลกินผัก นอกจากนี้ จัดโปรโมชันพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก 2 คืนขึ้นไป นำหลักฐานการเข้าพักมาติดต่อที่สำนักงาน ททท.ภูเก็ต ได้ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 15 ตุลาคม 2567 เพื่อมาจุ่ม Art Toy คอลเลกชันเทพเจ้า 1 คนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 ใบเสร็จ ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าวหมดแล้วหมดเลย มีจำนวนจำกัด
สำหรับ “ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต” เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างอย่าวนาน เกือบ 200 ปี ทางสมาคมอ๊ามภูเก็ต ได้พยายามร่วมกันที่จะเสนอเป็นมรดกโลก ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ที่ได้รับไปแล้ว และสร้างความภูมิใจให้จังหวัดภูเก็ต และคนภูเก็ต คือ งานประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต คว้ารางวัล “Grand Pinnacle” จากงานประกาศรางวัล “IFEA/Haas & Wilkerson Pinnacle Award 2024” มาครอง โดยการประกวดจัดขึ้นโดยสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (International Festivals & Events Association : IFEA) ณ เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา โดยได้ประกาศผลไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 กันยายน 2567 (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งนายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ เป็นผู้รับมอบรางวัลของจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย
สำหรับรางวัลนี้ ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เป็นหน่วยงานที่จัดเตรียมข้อมูลร่วมกับจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเสนอข้อมูลประเพณีแก่สมาคม IFEA ซึ่งผลการตัดสินได้รับรางวัล Grand Pinnacle Award ถือว่าเป็นรางวัลสูงสุดของทางสมาคม IFEA ที่ดูองค์ประกอบของการจัดงานโดยรวม ซึ่งประเทศไทยเองยังไม่เคยได้รับรางวัลดังกล่าวมาก่อน ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ซึ่งจะส่งผลดีกับหลายภาคส่วน ทำให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดให้ผู้คนมาเยือนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงนักเดินทางคุณภาพ สร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมประเพณีเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดภูเก็ต ช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และเข้าถึงให้รู้จักเป็นที่แพร่หลายเพิ่มมากขึ้นด้วย
ประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต ถือเป็นหนึ่งใน Flagship Event ที่สำคัญและเป็นเทศกาลที่คนไทยรู้จักกันมากที่สุดเทศกาลหนึ่ง ทั้งยังได้รับประกาศจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 ขึ้นบัญชี “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” (Intangible Cultural Heritage หรือ ICH : ขึ้นทะเบียนโดย UNESCO) ด้านการปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณีและเทศกาล และหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับงานประเพณีท้องถิ่นนี้ให้เป็นงานเทศกาลระดับนานาชาติด้วย เพราะประเพณีถือศีลกินผัก ไม่เป็นเพียงแค่เทศกาล แต่คือวิถีชีวิตของผู้คนที่มีเอกลักษณ์ดั้งเดิมมากที่สุดแห่งหนึ่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีแห่งความเชื่อและความศรัทธาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน
