ชุมพร - อาจารย์วิทยาลัยอาชีวะ แห่งหนึ่ง ในชุมพรป่วยจิตเวช ใช้อาวุธปืนจะไล่ยิงอาจารย์-ลูกศิษย์ จนต้องหนีตายกระเจิง เหตุไม่พอใจมีคนปิดล็อกห้องเก็บเครื่องมือ ตำรวจ ผู้บริหารสถาบันเจรจานานกว่าชั่วโมง ยอมจำนน พบปืนที่ใช้เป็นของปลอม
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (23 ก.ย.) ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุว่า ที่สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายชุมพร-ปะทิว ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร ได้มีคนคลุ้มคลั่งอาละวาด ใช้อาวุธปืนเดินไล่ทำท่าทางจะยิงใส่กลุ่มอาจารย์และลูกศิษย์ที่กำลังเตรียมตัวเข้าประชุม การจัดการเรียนการสอน จึงสั่งการให้ตำรวจชุดสายตรวจ พร้อมตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ภ.จว.ชุมพร รุดไปตรวจสอบควบคุมเหตุการณ์ และประสานกู้ชีพกู้ภัยสาย มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ร่วมเตรียมความพร้อมหากมีเหตุอันไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้
ที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันเหล่าอาจารย์ นักศึกษา และผู้ปกครองให้ออกมาอยู่รอบนอกเพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่พบชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่อาคารด้านหน้าเสาธง ซึ่งห่างจากป้อมยามเพียง 100 เมตร ทราบชื่อภายหลัง คือ อาจารย์เค (นามสมมติ) อายุ 59 ปี เป็นอาจารย์สอนประจำวิชาช่างยนต์ กำลังเดินถืออาวุธปืนแกว่งไปมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้บริหารสถาบัน พยายามเข้าเจรจาให้สงบสติอารมณ์ โดยใช้เหตุผลหลักการทางจิตวิทยาพูดจากับอาจารย์เค แต่ไม่เป็นผล อาจารย์เค ได้ยกอาวุธปืนเล็งมาทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคณะผู้บริหารทุกคนต่างถอยกรูวิ่งหลบออกมาอยู่หลังรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ได้ออกมาเจรจาเกลึ้ยกล่อมอีกครั้งหลังจากพบว่า อารมณ์ของอาจารย์เค มีท่าทีฉุนเฉียวลดลง
โดยใช้เวลาเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมง อาจารย์เค จึงยอมวางอาวุธปืนลงและนั่งลงกับพื้น ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าคุมตัวพร้อมยึดอาวุธปืนไว้ได้ ก่อนจะนำปืนมาตรวจสอบซึ่งพบว่าเป็นอาวุธปืนอัดลมที่ยิงด้วยเม็ดพลาสติกนั่นเอง เจ้าหน้าที่จึงให้ทางหน่วยกู้ชีพกู้ภัย ช่วยกันพาตัวขึ้นรถพยาบาลนำส่ง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทำการรักษาอาการต่อไป
สำหรับเหตุการณ์อาจารย์คลุ้มคลั่งในครั้งนี้ ทางผู้บริหารท่านหนึ่งซึ่งเข้ามาเจรจาขอให้ทางผู้สื่อข่าวไม่ให้ถ่ายและนำเสนอข่าวออกไป เพราะเกรงกระทบต่อจิตใจของครอบครัวและสถาบัน เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 1 ปี ที่อาจารย์เค จะเกษียณอายุราชการแล้ว จึงไม่อยากให้เกิดมลทิน และอาจถูกให้ออกหรือไล่ออก ซึ่งจะกระทบต่อครอบครัวของอาจารย์เค อีกด้วย และหากจะนำเสนอข่าวขอให้ใช้นามสมมติและเบลอภาพ และปกปิดชื่อสถาบันให้ด้วย
สำหรับอาจารย์เค ผู้ก่อเหตุนั้น เป็นบุคคลกรที่มีคุณภาพ ทำงานจริงจัง ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่รักษากับโรงพยาบาลมานานแล้ว และจะต้องกินยารักษาตลอด โดยในวันเกิดเหตุ อาจารย์เค ซึ่งจะรับผิดชอบด้านเครื่องเสียงตามอาคารของสถาบัน และตรวจพบว่าเครื่องเสียงมีความผิดปกติ เลยจะไปเอาอุปกรณ์ที่ห้องเก็บของมาซ่อม แต่พบว่าห้องเกิดล็อกกุญแจ จึงเกิดอาการไม่พอใจส่งเสียงเอะอะโวยวาย
จนทางอาจารย์ที่อยู่ใกล้ได้โทร.มาแจ้งตน จึงได้ไปหาพบว่าอาจารย์เค ถืออาวุธปืนอยู่แล้ว ส่วนอาจารย์คนอื่นๆ พากันวิ่งกระเจิงหลบหนีไปจนหมด แต่ตนรู้ว่าอาวุธปืนที่อาจารย์เค ถืออยู่เป็นของปลอม กฝเลยไม่ได้กลัวแต่หวั่นว่า จะไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ และอาจารย์เค อาจจะไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนปลอมทุบตีนักศึกษาหรือผู้ปกครองได้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการดังกล่าว
ในขณะที่ผู้ปกครองท่านหนึ่ง กล่าวว่า ยอมรับว่าหากเกิดเหตุในลักษณะนี้ตนรู้สึกว่าสถาบันที่ลูกมาเรียนจะปลอดภัยอีกหรือเปล่า เพราะสถาบันรู้ว่ามีผู้ป่วยจิตเวชที่ต้องกินยาตลอด แต่ทำไมให้มาสอนนักศึกษาอยู่อีก น่าจะจัดตำแหน่งที่ดีที่ไม่กดดันให้อาจารย์คนนั้นได้ทำหน้าที่จะดีกว่าหรือไม่