หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สปอตไลต์ก็ฉายจับมาที่ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.สงขลา 2 สมัย ว่าที่ รมช.สาธารณสุข
ชื่อของ “นายกชาย” อาจจะไม่โดดเด่นในการเมืองระดับประเทศ แต่ในพื้นที่ จ.สงขลา โดยเฉพาะใน อ.รัตภูมิ สิงนคร และสะเดา ใครๆ ต่างรู้จัก “เดชอิศม์” เป็นอย่างดี ด้วยพื้นเพเป็นคน อ.รัตภูมิ เริ่มเข้าสู่การเมืองด้วยการลงสมัครเป็นสมาชิกสภาจังหวัด ก่อนขยับสู่ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในสมัยที่ยังเลือกกันทางอ้อม อันเป็นที่มาของชื่อ “นายกชาย”
“เดชอิศม์” เป็นหนึ่งในคนสนิทของ "จองชัย เที่ยงธรรม" อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย เจ้าของสโลแกน “คิดอะไรไม่ออก บอกจองชัย” สนิทกันมากถึงขั้นนับญาติเป็นพ่อ-ลูกกัน เรียกติดปากว่า “ป๊ะจองชัย” และยังเคยเป็นหัวคะแนนให้ “ถาวร เสนเนียม” อดีต ส.ส.สงขลา และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ก่อนที่ “เดชอิศม์” จะมาอยู่ค่ายสีฟ้า ในการเลือกตั้งปี 2548 เขาอยากลงสมัคร ส.ส.สงขลา ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่มีที่ว่างให้ เขาจึงไปสวมเสื้อพรรคไทยรักไทย ลงรับเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 5 แต่ก็แพ้ “ประพร เอกอุรุ” ตัวแทนของ “นิพนธ์ บุญญามณี” จากประชาธิปัตย์
หลังพ่ายศึกเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2551 “เดชอิศม์” กลับมาลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่น โดยมี “ถาวร เสนเนียม” ให้การสนับสนุน ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา แข่งกับ “นวพล บุญญามณี” น้องชายนิพนธ์ ผลปรากฏว่า “นายกชาย” แพ้
ปี 2552 กกต.แจกใบเหลืองให้ “นวพล บุญญามณี” ต้องเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.สงขลา “นายกชาย” ลงแก้มืออีกครั้ง ด้าน “นิพนธ์” ส่ง “อุทิศ ชูช่วย” ลงสนาม แต่ “นายกชาย” ก็ต้องแพ้อีกครั้ง
หลังแพ้เลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา 2 ครั้งซ้อน “เดชอิศม์” ก็หันไปทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ความสัมพันธ์กับ “ถาวร เสนเนียม” อดีต ส.ส.สงขลา และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เขาได้โอกาสลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2562 และได้เป็น ส.ส.ครั้งแรก แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็ต้องมาเดินกันคนละทางในการเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 6 ครั้งล่าสุด ที่ “นายกชาย” ส่งภรรยา “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ลงสมัครรักษาเก้าอี้ ในขณะที่ “ถาวร” ประกาศหนุน “อนุกูล พฤกษานุศักดิ์” หรือ “เสี่ยโบ๊ต” ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ ลูกชายของ “อนันต์ พฤกษานุศักดิ์” คหบดีของ อ.สะเดา จ.สงขลา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสะเดา หุ้นส่วนบริษัท ศรีตรัง ผู้ค้ายางและส่งออกยางรายใหญ่ของประเทศ
แม้ก่อนหน้านี้ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เขต 6 หลัง “ถาวร เสนเนียม” เจ้าของพื้นที่เดิมถูกตัดสิทธิ เนื่องจากคดี กปปส. ที่ “น้ำหอม” เอาชนะ เสี่ยโบ๊ตไปได้ “ถาวร” เองจะไม่ได้ประกาศสนับสนุนใครก็ตาม
นอกจาก “นายกชาย” จะส่งภรรยาลงสมัคร ส ส.สงขลา แข่งกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ก่อนหน้านี้ “นายกชาย” ยังเป็นหนึ่งในแกนนำสนับสนุน “ไพเจน มากสุวรรณ์” ลงแข่งในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา ขับเคี่ยวกับ “พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล” เพื่อนลุงตู่ จากทีมพลังประชารัฐ
ในความสัมพันธ์กับ “ลุงป้อม” นั้น “นายกชาย” ถือว่าเคยรู้จักมักคุ้นกัน ว่ากันว่า “นายกชาย” สมัยยังไม่เป็น "บิ๊กเนม" เคยไปขอพึ่งอำนาจบารมีจาก “ลุงป้อม” แต่หลังจากมาสวมเสื้อ “ประชาธิปัตย์” ก็เดินหน้าชนกันอย่างเห็นตำตา
ช่วงที่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นมือเป็นไม้ให้ “ลุงป้อม” ได้ลงมาบี้หลายคดีในสงขลา ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า มีใบสั่งทางการเมืองให้ “บิ๊กโจ๊ก” จัดการ “นายกชาย” ชนิดขุดรากถอนโคน แม้ว่าในความสัมพันธ์ของ "นายกชาย" กับ “บิ๊กโจ๊ก” จะเป็นเรื่องที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า ทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก นอกจากจะมีพื้นเพเป็นคนสงขลาด้วยกันแล้ว หน้าที่การงานก็ทำให้ติดต่อใกล้ชิดกันมานาน
คดีที่เห็นกันชัดๆ คือ คดีบุกรุกทำลายโบราณสถานเขาแดงและเขาน้อย จ.สงขลา ที่ผู้ต้องหาคือ ครอบครัวพี่สาวแท้ๆ ของ “นายกชาย” และคดีจับกุม “เตียว วุย ฮวด" หรือ “โทนี่ เตียว” นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เจ้าของอาณาจักรเอ็มบีไอ กรุ๊ป ซึ่งเข้ามาลงทุนที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา มูลค่านับหมื่นล้านบาท ในข้อหาฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด ที่ใครๆ ก็เห็นว่า มีสัมพันธ์อันดีกับ “นายกชาย” ถึงขั้นมีคนเอาไปพูดกันว่า “โทนี่ เตียว” เป็นหนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของ “นายกชาย” แม้ภายหลังการจับกุม “นายกชาย” จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ไม่ได้เป็นท่อน้ำเลี้ยง ไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น “นายกชาย” เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นไว้ครั้งหนึ่งว่า ภายหลังได้สนิทสนมกับนายทุนเจ้าของอาณาจักรเอ็มบีไอมูลค่าหลายพันล้านที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา เขายังได้ชวนให้ “โทนี่ เตียว” ร่วมหุ้นในธุรกิจสนามวัวชนใหญ่สุดของภาคใต้ด้วย โดยเขาออกสถานที่ ส่วนฝ่ายนักธุรกิจใหญ่มาเลย์ใส่เงินลงทุน
ในงานบวชพระของ “โทนี่ เตียว” พร้อมลูก 8 คน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ที่วัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา “นายกชาย” รับเป็นเจ้าภาพให้ ขณะที่วันเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ เขต 6 สงขลา เพื่อรองรับการเลือกตั้งซ่อมที่ “น้ำหอม” ภรรยา “นายกชาย” ลงสมัครรับเลือกเมื่อช่วงต้นปี 2565 มานี้ ภาพปรากฏชัดเจนว่าสถานที่ตั้งคืออาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเอ็มบีไอ กรุ๊ป ซึ่ง "นายกชาย" ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เป็นการเข้าไปเช่าอย่างถูกต้อง
เช่นเดียวกันภาพขณะเตรียมงานโคมไฟนานาชาติที่จัดขึ้นที่เอ็มบีไอ รีสอร์ต ด่านนอก อ.สะเดา “นายกชาย” พร้อมด้วย “น้ำหอม” ภรรยาก็นำกระเช้าไปแสดงความยินดีกับ “โทนี่ เตียว” พร้อมเดินตรวจการเตรียมพื้นที่แบบที่มีคนแต่งชุดข้าราชการรวมกลุ่มอยู่ด้วย
นอกจากคดีเหล่านี้แล้ว “นายกชาย” ยังต้องเคลียร์ตัวเองเมื่อต้องรับตำแหน่ง “รัฐมนตรี” จากข้อครหาอื่นๆ อีก เพราะยังมีการกล่าวหา ลือกันว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจมืดหลายอย่าง โดยเฉพาะธุรกิจที่ผ่านเข้าออกชายแดนไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมไปถึงพื้นที่อ่าวไทย ย่านทะเลฝั่ง จ.นครศรีธรรมราช
ด้วยปูมประวัติและการดำเนินธุรกิจที่ออกไปในทาง “สีเทา” จึงเป็นที่คาดหมายวันว่า เมื่อ “เดชอิศม์” ได้เป็นรัฐมนตรีใน “ครม.อุ๊งอิ๊ง1” ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่ง “เป้า” ของบรรดานักร้องที่จะไปร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ “มาตรฐานจริยธรรม” ซึ่งจะมีผลไปถึง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้แต่งตั้งด้วย