สตูล - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ร่วมสืบสานการทำข้าวต้มสามเหลี่ยม อาหารมงคลของคนภาคใต้ จากชมรมผู้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพตำบลคลองขุด
วันนี้ (2 ก.ย.) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล จำนวน 30 คน กำลังฝึกทำข้าวต้มสามเหลี่ยม หรือ ต้มใบกะพ้อ อาหารพื้นบ้านของคนภาคใต้ เป็นอาหารมงคลของคนใต้ใช้ในงานบุญต่างๆ ไม่ว่าเป็นวันสารทเดือนสิบ งานประเพณีชักพระ งานบวช งานสมโภชองค์พระต่างๆ หรือนำมารับประทานคู่กับแกงคั่วหน่อไม้
โดยคนสมัยก่อนจะมีวิธีทำข้าวต้มสามเหลี่ยม โดยจะใช้ข้าวเหนียวขาว หรือข้าวเหนียวดำ อย่างเดียว แต่ปัจจุบันคนสมัยใหม่ได้นำต้มสามเหลี่ยมประยุกต์นำมาใส่ไส้ต่างๆ เช่น ไส้ถั่ว ไส้หมูหยอง ไส้ฝอยทอง ไส้กล้วย เป็นต้น
แต่สำหรับวันนี้คุณแม่ๆ จากชมรมผู้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพตำบลคลองขุด มาสอนทำ “ข้าวต้มสามเหลี่ยม” ไม่ใส่ไส้ ทำมาจากข้าวเหนียวสีขาว สูตรโบราณดั้งเดิม ส่วนผสมที่ต้องใช้ ได้แก่ 1.ข้าวเหนียวขาว 2.ใบกะพ้อ 3.น้ำกะทิ 4.น้ำตาล และ 5.เกลือ นอกจากเป็นการร่วมสืบสานและส่งต่อให้นักเรียนได้อนุรักษ์อาหารประจำถิ่นแล้ว ยังเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้สูงวัยกับเยาวชน เพื่อลดช่องว่างความต่างในสังคมของคนสองรุ่นผ่านกิจกรรมดีๆ
น.ส.ดรุณี โพธิ์เจริญ รอง ผอ.โรงเรียนบ้านคลองขุด กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้นักเรียนได้เรียนรู้การสืบสานวัฒนธรรมของท้องถิ่น ทางโรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนพหุวัฒนธรรมที่มีทั้งไทยพุทธและอิสลาม และนี่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมของผู้สูงอายุที่ใช้สถานที่แห่งนี้ในการออกกำลังกาย มาทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียน โดยมาสอนการทำขนมต้มใช้ในวันสารทเดือนสิบ หรือวันชักพระ ถ้าเป็นนักเรียนที่เป็นมุสลิมจะใช้ต้มนี้ในเทศกาลฮารีรายอ และเมื่อรู้วิธีการทำสามารถช่วยผู้ปกครองสร้างเป็นอาชีพได้อีกอย่างหนึ่ง
ด.ญ.รุ่งนภา รัญวาศรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 บอกว่า ฝึกทำแล้วไม่ยาก เพียงเลือกใบกะพ้อที่สดห่อให้แน่นจะได้ทรงสามเหลี่ยมทรงสวย หากห่อไม่แน่นไส้จะทะลักได้ ซึ่งการมาเรียนรู้ในครั้งนี้ยังได้ความรู้ติดตัวเอาไปประกอบเป็นอาชีพได้
นางประไพ อุบลพงษ์ ที่ปรึกษา ชมรมผู้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพตำบลคลองขุด บอกว่า ทางชมรมผู้ออกกำลังกายตำบลคลองขุด อยากเข้ามาสืบสานการทำข้าวต้มสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่กำลังจะหายไป เพื่อจุดประกายไม่ให้สิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นวัฒนธรรมสูญหายไป อยากถ่ายทอดให้นักเรียนสืบทอดวัฒนธรรมของเราไม่ให้สูญหาย